´แก้วสรร´ ชงค่าโง่ทีโอที-กสท ให้ คตส.

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า ในการประชุม คตส. วันที่ 6 ธ.ค. นี้ ในฐานะเลขานุการ คตส. ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนจาก สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ร้องขอให้ตรวจสอบหาผู้กระทำผิดที่ทำให้ทีโอทีและกสท เสียหายเนื่องจากยอมรับภาระเป็นผู้ยื่นแบบเสียภาษีสรรพสามิต แทนบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญา โดยจะยื่นเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่ คตส.รับไว้พิจารณา ส่วนจะรับไว้เข้าตรวจสอบเป็นโครงการที่ 13 หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ กับมติของที่ประชุม

นายแก้วสรร ในฐานะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวว่า การตรวจสอบโครงการดังกล่าวคืบหน้าไปมากโดยได้ส่งทีมงานลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งพบความผิดเกี่ยวโยงกันหลายอย่าง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้การตรวจสอบโครงการดังกล่าวยังไม่สามารถที่จะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ เพราะยังมีพยานสำคัญอีกหลายปากที่ต้องมาให้ข้อมูลเพื่อให้ ทีมงานแต่ละชุดนำสรุปเข้าสู่ที่ประชุมอนุกรรมการอีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปให้ คตส.ชุดใหญ่พิจารณา

จ่อคิวเชือดหลายโครงการเห็นผลเร็วๆนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีหลายโครงการที่คตส.ตรวจสอบแล้วมีความคืบหน้าไปมาก หลายเรื่องเป็นไปตามที่นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ที่ระบุว่าเริ่มเห็นหน้าคนและการกระทำผิดชัดเจนแล้ว แต่ คตส.จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ หลุดในชั้นศาล เช่น โครงการท่อร้อยสาย โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิ กรณีการซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ และกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้าและสามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ แม้บางเรื่องอาจจะไม่ทัน แต่หลังปีใหม่จะมีอะไรออกมาให้ประชาชนเห็น เช่น กรณีบ้านเอื้ออาทร ที่มีการส่งอนุกรรมการตรวจสอบไปเก็บข้อมูล ในพื้นที่ภาคกลางหลายจังหวัด เช่น ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี ส่วนเรื่องที่ดินกับเรื่องหุ้นชินคอร์ป มีความคืบหน้าไปไกลมาก แต่กรรมการ คตส.ที่รับผิดชอบ ยังไม่อยากพูดอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีการออกเลขท้ายพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน ที่มีนายอุดม เฟืองฟุ้ง กรรมการ คตส. เป็นประธานอนุกรรมการฯตรวจสอบ ที่ได้เชิญนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เข้าให้ข้อมูลกรณีการออกเลขท้ายพิเศษ 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน ปรากฏว่า นายบวรศักดิ์ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะที่มาที่ไปของโครงการดังกล่าว อาทิ ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ครม. มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง และมีการอนุมัติโครงการหวยบนดินเมื่อไหร่ ในที่ประชุม ครม.มีการพูดคุยในเรื่องนี้อย่างไร และพูดคุยกันกี่ครั้งถึงได้ออกโครงการนี้มา และได้มีการตั้งคณะกรรมการพัฒนายุทธศาสตร์อย่างไรบ้าง โดยนายบวรศักดิ์ก็ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับอนุกรรมการฯตรวจสอบ จนส่งผลให้การสอบสวนคืบหน้าไปมาก โดยบุคคลที่อนุกรรมการจะเชิญเข้ามาให้ข้อมูลอีกครั้ง คือนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง

น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังจากถูกคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการหลีกเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นบริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 738 ล้านบาท ระหว่างนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ว่า มีผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าว ซึ่งได้พิจารณาแล้วพบว่า เนื้อหาที่ร้องเรียนมีลักษณะเดียวกันคือ ยืนยันว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการไปนั้น เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่มีเจตนา หรือจงใจที่จะช่วยให้มีการหลีกเลี่ยงภาษี ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 ราย ไม่ได้ยื่นเอกสารหรือหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ดังนั้นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่ยื่นมา คงไม่มีผลกับสำนวนการไต่สวนที่คณะอนุกรรมการฯได้สรุปไปแล้ว เพราะในชั้นการสอบสวนก็ได้มีการสอบถามประเด็นดังกล่าว และผู้ ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รายก็ได้เคยชี้แจงมาแล้ว หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะเป็นผู้พิจารณาในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ว่า จะมีความเห็นและวินิจฉัยอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการต้องดูเจตนาในการกระทำด้วย