“ตู่”เปิดคลิป“พนิช”ฉบับเต็มติงรัฐฯหลงทาง

“จตุพร” เปิดคลิปฉบับเต็ม “พนิช” รุกเขมร ติงรัฐบาลหลงทาง เล่นการทูต 2 หน้า อัดระวังไม่มีที่ยืนในอาเซียน เตือนพวกชาตินิยมจ๋าดู “อิรัก” เป็นตัวอย่าง

วันนี้ (6 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยในและแกนนำกลุ่ม นปช. ได้นำคลิปวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่นายพนิช วิกฤติเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะรวม 7 คน ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งถูกทหารกัมพูชาจับกุม ความยาวทั้งหมด 20.31 นาที มาเปิดแสดงต่อสื่อมวลชน

โดย นายจตุพร แถลงว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่นายฮอร์ นัม ฮง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา เปิดให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศดู

และมอบให้นำกลับมาประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ได้เป็นการผลัดหลงเข้าไป แต่ด้วยความมั่นใจว่าหากถูกจับจะมีตำรวจตระเวนชายแดนหรือ ตชด.ออกมาช่วยเหลือ เหมือนหนังไทยที่ตำรวจจะออกมาตอนท้ายเสมอ รวมทั้งภาพขณะเข้าไปก็มีป้ายภาษากัมพูชาชัดเจน มีการสอบถามร้านค้าว่าใช้เงินไทยได้หรือไม่ ย่อมแสดงให้เห็นว่าคณะของนายพนิช ทราบอยู่แล้วว่าเข้าไปในพื้นที่กัมพูชา อีกทั้งจากข้อมูลของเจ้ากรมแผนที่ทหารก็ระบุว่าจุดที่คณะของนายพนิช ถูกจับนั้นล้ำเข้าไปในดินแดนกัมพูชาถึง 55 เมตร ทั้งหมดนี้คือพฤติกรรมของนายพนิช คนที่พรรคประชาธิปัตย์การันตีว่ามีความรู้ความสามารถ ละเคยเป็นถึงผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ

นายจตุพร กล่าวต่อว่า การที่นายกฯ ระบุว่านายพนิช ได้บอกว่าจะลงพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี แล้วไปอยู่ที่ จ.สระแก้ว โดยที่ไม่รู้นั้น
 
ขอตั้งคำถามว่าการเดินทางไปจ.ปราจีนบุรี ของนายพนิช ต้องแจ้งให้นายกฯ ทราบเพียงคนเดียวเท่านั้นหรือคนที่เป็นวิญญูชนฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ กรณีนี้เหมือนกับที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทนายกฯ ไปพบนายวิคเตอร์ บูท ในเรือนจำด้วยวิธีที่รู้กันเพียง 2 คน และส่งผลให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียมาถึงทุกวันนี้


นายจตุพร กล่าวต่ออีกว่า สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ออกมาระบุว่าคลิปดังกล่าวเป็นการตัดต่อ

ซึ่งต้องบอกว่าเป็นพฤติการณ์เดิม ๆ เหมือนที่เคยทำมาในอดีต จนนายอภิสิทธิ์ กลายเป็นบิดาของการตัดต่อไปแล้ว
เหมือนที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าจะต้องต่อสู้ตามแนวทางของนายอภิสิทธิ์ ที่อ้างว่าเป็นคลิปตัดต่อมาตลอด จึงอยากถามว่าหากนายอภิสิทธิ์ เชื่อว่าเป็นการตัดต่อจริงก็ขอให้สนับสนุนนายพนิช ต่อสู้ประเด็นนี้ในศาลกัมพูชา แล้วย้ำด้วยว่าคณะนายพนิช หลงทางเข้าไป

“จริง ๆ แล้วคนที่หลงทางไม่ใช่นายพนิช แต่เป็นนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาลต่างหาก เพราะหากนายภิสิทธิ์ เร่งเจรจากับสมเด็จฮุนเซน แต่แรกก่อนที่เรื่องจะขึ้นถึงศาล ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เบี่ยงเบนประเด็นไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ลูกผู้ชายไม่กระทำกันก็จะไม่คาราคาซังมาถึงทุกวันนี้ แต่ที่ไหนได้พอนายพนิช ถูกจับที่ชายแดนกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กลับหนีไปตั้งหลักที่ทีลอซู ติดชายแดนพม่าและหากนายอภิสิทธิ์ ยังมีพฤติกรรมใช้การทูต 2 หน้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ต่อไประวังว่าจะไม่มีที่ยืนในเวทีอาเซียนอีก” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกคนรู้ว่าเป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ พยายามจะหาทางลงให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่นัดชุมนุมกันใหญ่โตในวันที่ 25 ม.ค.
 
จึงขอเตือนพวกที่คิดจะปลุกระแสชาตินิยมแล้วเอาปัญหาการเมืองในประเทศไปขยายเป็นการเมืองระหว่างประเทศ โดยไม่คิดถึงผลร้ายที่ตามมา หากมีการรบกันเกิดขึ้นจะเกิดผลเสียหายที่สุด ขอให้ดูกรณีอิรักกับคูเวต ที่อิรักอ้างว่าคูเวตเป็นจังหวัดหนึ่งของอิรัก จึงเข้าไปบุกยึด สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้คูเวต เรื่องนี้หากเกิดขึ้นก็จะกลายเป็นคำถามว่าแล้วแถบตะนาวศรี ปะลิส ไทรบุรี ตรังกานู ฝั่งขวาแม่น้ำโขง จะทำยังไงต่อไป วันนี้เวทีโลกไม่ปล่อยให้เราทำอะไรตามแต่ใจอย่างนั้นอยู่แล้ว พวกชาตินิยมสุดขั้วจะต้องระมัดระวังให้ดี แล้วหากมีการปักปันดินแดนจริงจะทำให้เราเสียดินแดนอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านชายแดนไทย-ลาว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง อ้างขอความเมตตาจากสมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

เพื่อให้ปล่อยตัวนายพนิช และพวกนั้น นายสุเทพ ไม่รู้ขั้นตอนกระบวนการเลยหรือว่าเมื่อเรื่องขึ้นศาลแล้วก็ต้องรอให้ศาลพิพากษา ผลเป็นอย่างไรถึงจะไปขอพระราชทานอภัยโทษกับผู้นำกัมพูชา การออกมาพูดเช่นนี้โดยไม่รอกระบวนการที่ถูกต้อง รังแต่จะทำให้คนไทยทั้ง 7 คนเดือดร้อนมากขึ้น แล้วหากเขาถามกลับมาว่า ประเทศนี้มีความเมตตากับคนที่ถูกจับกุมคุมขังโดยไม่มีเหตุผลอันควรหรือไม่ จะตอบคำถามเขาได้อย่างไร เพราะแม้แต่ในบ้านเมืองตัวเองยังไม่มีความเมตตา.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์