นปช.ร้องศาลโลกหันมองคดีเสื้อแดงศาลไทย

นปช.ร้องศาลโลกสังเกตการณ์คดีเสื้อแดงของศาลไทย กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม “ธิดา” ตั้งหมดเชิดชัย-เมียขวัญชัย เป็นแกนนำแดงส่วนกลาง ซัด ปชป.-พธม.จับมือสร้างกระแสรักชาติ

วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร แถลงว่า นปช.ยืนยันจะจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ต่อไป โดยจะรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและเคลื่อนขบวนไปจุดเทียนที่ราชประสงค์ เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำ นปช.และคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ทั่วประเทศ เรายืนยันว่าจะจัดชุมนุมต่อสู้เรียกร้องอย่างนี้ทุกเดือนจนกว่าคนเสื้อแดงจะได้รับความยุติธรรมและได้ประชาธิปไตยคืนมา ซึ่งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ได้ฝากบอกมาว่า แกนนำทุกคนที่อยู่ในเรือนจำมีขวัญกำลังใจดีที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และสิทธิที่จะได้รับการประกันตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 39 และมาตรา 40

นางธิดา กล่าวต่อว่า แม้วันนี้จะปิดปากนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธาน นปช.ไม่ให้พูดความจริง

แต่เรายังมีเสื้อแดงกว่า 10 ล้านปากที่จะนำความจริงการเข่นฆ่าประชาชนของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปเปิดเผยเพื่อหยุดยั้งวงจรอุบาทว์ ทั้งนี้ตนได้นำหนังสือไปถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อขอพยานมาสังเกตการการพิจารณาคดีและไต่สวนคดีของ นปช. หรือคนเสื้อแดงในศาลไทย เพราะต้องการป้องกันแนวโน้มความไม่เป็นธรรมระหว่างการพิจารณาคดี รวมทั้งช่วยเผยแพร่ข้อความเท็จจริงและความคืบหน้าของคดีให้โลกได้รับรู้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อประชาชนคนไทยรู้สึกว่าได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมตามหลักประชาธิปไตย

นางธิดา กล่าวอีกว่า สำหรับการให้ช่วยเหลือแกนนำและคนเสื้อแดงออกจากคุกนั้น คงต้องมีการหารือกับฝ่ายกฎหมายเรื่องการอุทธรณ์อีกที

อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ นปช.จะเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์ใหม่ เพื่อสามารถขับเคลื่อนต่อไปอย่างเป็นระบบ โดยเบื้องต้นได้แต่งตั้ง นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น และนางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เป็นตัวแทนคนเสื้อแดงภาคอีสาน ในคณะกรรมการกลาง นปช.  รวมทั้งได้การดำเนินการจัดตั้งกรรมการนปช. ระดับภาค จังหวัด เขต อำเภอ และตำบลให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ม.ค.54 นี้ เพื่อนำไปปรับโครงสร้าง นปช.ครั้งใหญ่ในเดือน ก.พ.54

นางธิดา ยังกล่าวยังถึงกรณีนายพนิช วิกิตเศรษฐ ส.ส.ปชป. ถูกจับในข้อหาบุกรุกดินแดนกัมพูชา ว่า

ไม่ทราบว่าเป็นความจงใจหรือร่วมมือกันกับกลุ่มพันธมิตรฯ และไม่รู้ว่าใครหลอกใคร แต่ไม่ว่าใครหลอกใครก็ตาม กรณีนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้พันธมิตรฯ หายไป จึงจุดกระแสเพื่อเรียกให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาต่อต้าน แม้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ เหลืออยู่เพียงหลักร้อยก็ตาม

ด้านนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ กล่าวว่า ในนาม นปช.รู้เสียใจและเข้าใจความทุกข์ยากของคนที่ต้องติดคุก รวมทั้งครอบครัวที่ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ 

ในฐานะเราเป็นคนไทยด้วยกันขอแสดงความเห็นอกเห็นใจที่คนไทยทั้ง 7 คนต้องถูกจองจำทั้งที่ไม่มีความผิดชัดเจน อย่างเช่น นปช.ที่ไม่พอใจที่คนเสื้อแดงจำนวนมากต้องถูกจองจำทั้งที่ไม่ปรากฏความผิดชัดเจน

นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 6 ม.ค. เวลา 10.00 น. ตนและคณะกรรมการ นปช.จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ให้ดำเนินการเอาผิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา องคมนตรี และนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีที่วิกิลีกส์นำบทสนทนาของคนทั้ง 3 คนที่พูดคุยกับนายอีริค จี.จอห์น อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ออกเผยแพร่มีข้อความที่อาจจะมีความผิดต่อสถาบันเบื้องสูงและเป็นการดูหมิ่นองค์รัชทายาท ซึ่งหากหลังจาก นปช.ยื่นหนังสือแล้วยังไม่มีความคืบหน้าใด นปช.จะยื่นดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ ฐานความความผิดอาญา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่.