ภายหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การเมืองที่เริ่มนับถอยหลังเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม และจะยุบสภาก่อนครบวาระแน่นอน ส่วนจะก่อนกี่เดือนนั้นก็มีเงื่อนไขอยู่ตรงวันที่ 21 ม.ค.ที่สภาเปิด ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายค้านต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และทันทีที่ยื่น นายกฯก็ยุบสภาไม่ได้
"สมมติว่าฝ่ายค้านยื่นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปกติมีเวลา 2-3 อาทิตย์ มีการอภิปราย หากฝ่ายค้านยื่นกลางกุมภาพันธ์ ก็จะเริ่มอภิปรายรวมถึงลงมติในเดือนมีนาคม การยุบก็จะเกิดหลังจากมีนาคมไปแล้ว เมื่อนับปฏิทินการเมืองน่าจะยุบอยู่กลางปี แต่ทั้งนี้ก็เป็นอำนาจนายกฯ" นายสาทิตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเงื่อนไขเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร
นายสาทิตย์กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพอเปิดสมัยประชุม กรรมาธิการคงพิจารณาแล้วเสร็จ และเสนอกลับเข้ามาในที่ประชุมสภาฯ ส่วนจะมีการปรับแก้ในสัดส่วนของจำนวน ส.ส.หรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่ขณะนี้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแก้ไข ทั้งนี้ในส่วนหากผลการแปรญัตติจำนวนส.ส.เขตมีจำนวนเก้าอี้น้อยลงตามร่างฯที่เสนอ ก็ต้องหาวิธีจัดการ โดย ให้ขึ้นเก้าอี้ที่หายไปเขยิบไปอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อแทน
ต่อข้อถามว่าปัจจัยความไม่สงบ เช่น กลุ่มเสื้อแดง จะมีผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่
นายสาทิตย์ยอมรับว่าเท่าที่วิเคราะห์กัน ความขัดแย้งยังมีอยู่ แต่ต้องพยายามลดเงื่อนไข คือ 1 .ความเลื่อมล้ำ ระบบยุติธรรม ต้องคลี่คลาย 2. ความคิดเห็นที่แตกต่าง ที่ต้องทำให้อยู่ในกรอบที่ไปกันได้ เช่น คุยในสภาฯ การเสนอแผนปรองดอง รวมถึงการที่ครม.ส่งสัญญาณให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลแสดงความจริงใจที่อยากให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่ปฏิเสธ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
