เชื่อปล่อยข่าวยุบสภา พ.ค.แค่ลดกระแส

เลขาฯ พท.เชื่อปล่อยข่าวยุบสภา พ.ค.แค่ลดกระแสฝ่ายตรงข้าม คาดยุบจริง 1 เดือน ก่อนรัฐบาลครบวาระ

วันนี้ (3 ม.ค.) นายสุพล ฟองงาม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า อาจมีการประกาศยุบสภาในเดือน พ.ค.2554 ว่า ส่วนตัวคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก น่าจะเป็นแค่การหยอดยาหอม เพื่อลดบรรยากาศทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาในช่วงเวลา 1 เดือน ก่อนรัฐบาลครบวาระ เพราะปัจจุบันผลประโยชน์ และอำนาจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลลงตัว ยังมองไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร เรื่องการเคลื่อนไหวภาคประชาชนก็ไม่เป็นอุปสรรคที่รัฐบาลจะอยู่ยาว แต่ความจริงแล้วบรรยากาศขณะนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง ตนยังไม่เห็นว่าจะมีความรุนแรงทางการเมืองตรงไหน การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.5 เขต ที่ผ่านมา ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เป็นการเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ และขอความเป็นธรรมในการดำเนินคดี ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งเลย
   
นายสุพล กล่าวว่า หากมีการยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ในกลางปีจริง พรรคเพื่อไทยก็มีความพร้อม และจะพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในเดือน เม.ย.54

แม้ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มี ส.ส.เขต 400 คน และระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ต้องปรับยุทธศาสตร์ และกระจายตัวผู้สมัคร ส.ส.ให้มีความเหมาะสมขึ้น ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมือง หาเสียงโดยบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีโอกาสกลับมาเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทยได้อีกแล้วนั้น ก็ไม่มีผลต่อพรรค เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่เราก็ได้ ส.ส.มา 233 ที่นั่ง แต่การต่อสู้ครั้งนี้ ประชาชนเขาคิดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ก็มีโอกาสได้ประชาธิปไตย ได้ความเป็นธรรมมากกว่าเดิม และโอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้กลับไทยก็สูง

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์โดดเดี่ยวเพื่อไทย โดยประกาศผูกปิ่นโตจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าแล้ว

นายสุพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมา มีผลประโยชน์ลงตัวมหาศาล แต่การประกาศผูกปิ่นโตล่วงหน้าอย่าลืมว่าประชาชนเขาดูอยู่ ฉะนั้น อย่าดูถูกประชาชน และระวังประชาชนจะสั่งสอน สำหรับพรรคเพื่อไทยเราตั้งเป้าว่า ต้องได้เสียงเกินครึ่งคือ ประมาณ 270 ที่นั่ง แต่ทั้งหมดต้องปรับยุทธศาสตร์เตรียมเลือกตั้งใหม่ ต้องมีความชัดเจนตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทุนขับเคลื่อนต้องเพียงพอ แต่ไม่ใช่เพื่อใช้ซื้อเสียงซึ่งเป็นโยบายเด็ดขาด และการบริหารจัดการภายในพรรคต้องมีประสิทธิภาพ ซึ่งหลังปีใหม่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมประกาศแคมเปญ และนโยบายหาเสียงอย่างเป็นทางการ

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยซึ่งมีฐานเสียงเดียวกับพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าได้ ส.ส.70 คน นายสุพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้กันในสนามเลือกตั้ง แต่ขอให้สู้กันบนกติกาอย่างยุติธรรม อย่าใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน ถ้าการต่อสู้บริสุทธิ์ยุติธรรม พรรคเพื่อไทยไม่กลัวใครอยู่แล้ว.