กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ยอมรับหลังตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้วยเหตุผล 3 ข้อ ทำสำเร็จลุล่วงเพียงเรื่องเดียวเรื่องการทำให้กองทัพมีความสามัคคี ส่วนประเด็นปรองดอง ทำไม่ได้ เชื่อถ้าการเมืองปรองดอง ประชาชนก็ปรองดอง ส่วนการปกป้องสถาบันทำได้ระดับหนึ่ง ระบุเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกัน พร้อมยืนยัน ไม่คิดเป็นนายกรัฐมนตรี การได้เป็นผู้บัญชาการทหารบกถือว่าจบตามความหวังสูงสุดของชีวิตแล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 3 ข้อ
ที่ต้องการสร้างความปรองดอง เพราะไม่ได้อยู่กับฝ่ายไหน แต่ยังทำไม่สำเร็จ การดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคน สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถทำให้การก้าวล่วงสถาบันยุติได้ ส่วนการดูแลกองทัพให้เกิดความรักความสามัคคีที่แน่นแฟ้นอยู่แล้วให้มากขึ้นสามารถทำได้แล้ว
“เรื่องการปรองดอง ผมยืนของผมอย่างนี้ ผมไม่มีฝ่าย ผมเข้าฝ่ายประชาชน เพราะฉะนั้นเรื่องการปรองดองอยู่ที่การเมือง ผมคิดเองนะว่า ถ้าการเมืองปรองดองกันได้ จะมีโอกาสสูงที่คนไทยจะปรองดองกัน ส่วนเรื่องการปกป้องสถาบัน ผู้บัญชาการเหล่าทัพกำชับกำลังพลตลอดเวลาอยู่แล้ว ผมอยากบอกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์มีพระมหากรุณาธิคุณกับคนไทยมหาศาล ประเทศนี้เกิดมาด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงดูแลประชาชนมาตลอดมาจนถึงราชวงศ์จักรี สร้างความเจริญให้กับประเทศชาติ ไม่เคยมีส่วนใดที่มีเจตนาทำให้ประเทศชาติเสียหาย ผมอยากวิงวอน ถือเป็นภาระหน้าที่ของสื่อและคนไทยทุกคนที่จะต้องช่วยกันปกป้องดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากให้สถานีโทรทัศน์ช่วยกันเผยแพร่พระราชกรณียกิจตั้งแต่ในอดีต ขณะนี้เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมเริ่มลดน้อยลงแล้ว”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว
เมื่อถามถึงสาเหตุของการก้าวล่วงสถาบันที่รุนแรงขึ้น
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เพราะมีแกนนำ มีคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็มีในหลาย ๆ ประเทศที่เปลี่ยนไปแล้ว ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเราเปลี่ยนไปแล้วก็กลับมาเหมือนเดิม “ผมไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้คิดอย่างไร เพราะมองมุมไหน แง่ไหน ก็ไม่เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะทำความเสียหายให้กับประชาชน ประชาชนมีแต่ได้ทั้งนั้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าว
เมื่อถามถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้หรือไม่
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหมาะสมหรือไม่ ไม่ทราบ “แต่ผมว่าท่านเป็นคนเก่ง เป็นคนมีความคิด มีเจตนาดีต่อบ้านเมือง เรื่องความเหมาะสมต้องให้ประชาชนดูในภาพรวม ส่วนสมัยหน้าถ้ามีคนเชิญมาเป็นรัฐมนตรีอีกหรือไม่ ยังไม่รู้ ขอให้ตรงนี้สำเร็จก่อนดีกว่า ให้มีเลือกตั้ง แล้วผมก็จบตรงนี้ก่อน แต่ถ้าให้ผมไปเล่นการเมือง ผมไม่เล่น ไม่มีความปรารถนาในการมีอำนาจ”
เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าทหารเหมาะกับการเมืองหรือไม่
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยู่ที่คน แต่ในช่วงอายุของตนนั้นถือว่าจบแล้ว เป็นผู้บัญชาการทหารบกถือเป็นความหวังสูงสุดแล้ว เพราะฉะนั้นจึงถือว่าจบในอาชีพของตนเองแล้ว “การเล่นการเมือง ผมว่าผมไม่ใช่ การจะเล่นการเมืองมันต้องเริ่มต้นมาตั้งแต่เด็กๆ ผมไม่รู้ว่าความต้องการของนักการเมืองมีมากน้อยเพียงใด แต่ผมรู้อย่างหนึ่งว่า การเมืองสามารถทำอะไรให้กับประเทศชาติได้มาก” ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เอา ไม่เป็น ไม่เคยคิด.-สำนักข่าวไทย
“พล.อ.ประวิตร” ยอมรับ 2 ปี ทำปรองดองไม่สำเร็จ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง “พล.อ.ประวิตร” ยอมรับ 2 ปี ทำปรองดองไม่สำเร็จ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!