เสธ.ทบ.ชูปี 2550 ปีมหามงคล-ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในชาติ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2549 03:19 น.

เสธ.ทบ.ออกโรงชูปี 2550 ปีมหามงคลไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในชาติ ย้ำพร้อมเจรจาแกนนำม็อบ 10 ธ.ค. เพราะไม่ต้องเปิดศึกหลายด้าน ยอมรับไม่ประมาทพร้อมรับมือสถานการณ์ ยืนยัน ผบ.ทบ. สั่ง สพรั่ง เคลียร์แกนนำ

วันนี้( 4 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก (นขต.ทบ.) ถึงการหารือมาตรการรับมือการชุมนุมของกลุ่มต่อต้าน คมช.ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึง แต่เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นเรื่องปกติที่กองทัพดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาในการเกาะติดสถานการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ และให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามปกติ เพื่อให้เกิดความสงบขึ้นในบ้านเมือง

พล.อ.มนตรี ตอบว่า ท่านก็คงมีความเป็นห่วง แต่ท่านคิดว่าปีนี้เป็นปีมหามงคล และทุกคนรักในหลวง จึงคิดว่าทุกคนไม่อยากให้บ้านเมืองเรามีปัญหา และเนื่องจากเป็นปีมหามงคล ท่านจึงไม่ห่วงใยเรื่องนี้มากนักเช่นเดียวกับตน

พล.อ.มนตรี กล่าวต่อว่า เบื้องต้นหากไม่มีปัญหาอะไรและตำรวจสามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้ ก็ไม่ต้องถึงมือทหาร แต่หากเกิดความไม่สงบขึ้นและตำรวจไม่สามารถรับมือได้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ทหารซึ่งมีหน้าที่ดูแลบรักษาความสงบภายในต้องเข้าไปดูแล อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์จากทุกกองทัพภาค คิดว่าคุยกันรู้เรื่อง จึงมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น ทั้งนี้ การประชุมภารกิจ 4 ประกาศ ในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการและหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้

พล.อ.มนตรี กล่าวว่า ในห้วง 1 ปี ซึ่งเป็นปีมหามงคล ในฐานะที่เป็นคนไทยรักในหลวง ก็ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งภายในชาติ เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ลงไปพัฒนาภาคใต้ เพื่อจะได้เริ่มต้นกันขึ้นมาใหม่กับรัฐบาลใหม่ เพื่อประเทศชาติจะได้เดินไปข้างหน้า

พล.อ.มนตรี ตอบว่า ก็ต้องมีเป็นเรื่องธรรมดา ทางกองทัพได้วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวเพื่อปฏิบัติการ

เมื่อถามต่อว่า คมช. และ รัฐบาลเป็นห่วงปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ภายหลังยกเลิกกฎอัยการศึก พล.อ.มนตรี ตอบว่า ไม่น่าเชื่อว่าในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงวันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้แม้แต่ประโยคเดียวว่าจะต้องเตรียมรับมือสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ เพราะยังมีความมั่นใจว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคล พวกเราคงรักชาติ รักในหลวง คงไม่มีใครคิดที่จะแบบนี้

เมื่อถามย้ำว่า ทางกองทัพยังเชื่อมั่นว่ายังมีการชุมนุม แต่ก็ไม่ได้ประมาท พล.อ.มนตรี ยอมรับว่า เรื่องนี้ไม่ได้ประมาทอยู่แล้วและ ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะมีอยู่ในคำสั่งตามขั้นตอนซึ่งเป็นระเบียบปฏิบัติประจำอยู่แล้ว ทั้งนี้ คนเราเมื่อได้พูดคุยและทำความเข้าใจกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผช.ผบ.ทบ.ในฐานะ ผช.เลขา คมช. ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ทบ. ให้ไปทำความเข้าใจกับกลุ่มแกนำนำที่มีการเคลื่อนไหว เพื่อจะได้รู้ว่าเขาต้องการอะไร

พล.อ.มนตรี กล่าวว่า เป็นการติดตามความคืบหน้า 4 ประการที่ทาง คตส. และ ปปช. ดำเนินการมีความคืบหน้าถึงไหน เพื่อที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งเป็นการช่วงชิงการชี้แจงข่าวให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะที่ผ่านมากองทัพอ่อนประชาสัมพันธ์ อาทิ งบประมาณของกองทัพที่จะได้เพิ่ม 30 % ในปี 2550 ซึ่งประชาชนมองแล้วว่าเป็นตัวเลขค่อนข้างสูง จึงมีคำพูดผ่านทางอินเตอร์เน็ตว่า กองทัพทำการปฏิรูปเพราะต้องการงบประมาณก็ไม่บอก

เมื่อกองทัพรู้ก็จำเป็นจะต้องช่วงชิงชี้แจงว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กองทัพไม่เคยได้งบประมาณเพิ่ม ทำให้การฝึกศึกษาต้องลดลง รวมถึงอาวุธยุทโธกรณ์ก็ไม่ได้ซ่อมบำรุง โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ในขณะนี้ 44 % ที่สามารถใช้ปฏิบัติงานได้ จาก 100 % จะคิดว่าสงครามขนาดใหญ่ไม่เกิดขึ้นคงไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรบอยู่เสมอ ดังนั้นงบประมาณที่เพิ่มขึ้นก็จะนำไปซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์เดิมให้สามารถใช้งานเดิม นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ได้สั่งในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกให้จัดหายุทโธปกรณ์ที่ผลิตในประเทศเป็นอันดับแรก เพราะมีราคาถูกและเป็นการส่งเสริมการพัฒนายุทโธปกรณ์ให้ดีขึ้นเสธ.ทบ.กล่าว