ออกตัวเบรกศึกเก้าอี้เลขาฯนายกฯ

“สุเทพ” เบรกศึกเก้าอี้เลขาธิการนายกฯ ลั่นกลางที่ประชุมขอให้เป็นมติเอกฉันท์ ไม่อยากเกิดภาพขัดแย้ง
 
เมื่อเวลา 19.00 น.  วันที่ 28 ธ.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมได้ขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษา ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายเพื่อต่อสู้คดียุบพรรค จนสามารถผ่านพ้นมาได้ จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงการลาออกของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวุ โดยกล่าวว่า นายกอร์ปศักดิ์ตั้งใจลาออกด้วย 2 เหตุผล คือ 1.เพื่อทุ่มเทในการเตรียมการเลือกตั้งของพรรค 2.เพื่อจะได้มีความมั่นใจว่านายอภิสิทธิ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยชนะการเลือกตั้งมาเมื่อปี 2535 จากนั้น ก็แพ้การเลือกตั้งมาโดยตลอด ดังนั้น การจะชนะได้อยู่ที่หลัก 3 ข้อ คือ นโยบายดี ผู้สมัครพร้อม และทุนพร้อม ซึ่งนายกอร์ปศักดิ์อาสาที่จะดูแลเรื่องนี้เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้ระบุว่าข้อบังคับพรรคได้ให้อำนาจนายกฯ ในการพิจารณาเลือกเลขาธิการนายกฯ และแจ้งให้ที่ประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรครับทราบ อย่างไรก็ตาม หลักจากนายกฯ และนายกอร์ปศักดิ์ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่สนับสนุนนายอัญชลีแล้ว ที่ประชุมได้เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็น แต่ไม่มีใครแสดงความเห็นมีแต่เสียงปรบมือเห็นชอบอย่างเอกฉันท์แทน
 
นพ.วรงค์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายกฯ ได้อวยพรปีใหม่ให้กับที่ประชุมว่า “ขอให้สร้างประวัติศาสตร์สักครั้ง ขอให้ทุกคนกลับมาเป็นส.ส.ครบ 100 เปอร์เซ็นต์” นอกจากนี้ ยังที่ประชุมยังมีการกำชับให้ส.ส.1 คนหาแกนนำในพื้นที่ให้ได้ 3,000 คน และยังได้เร่งให้รัฐมนตรีและส.ส.สัดส่วนของพรรคร่วมกันจัดทำปฏิทินในการลงพื้นที่ช่วยส.ส.เขต เยี่ยมและทำความเข้าใจประชาชนด้วย
 
แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า หลังจากที่นายกฯชี้แจงถึงเหตุผลของการตั้งนางอัญชลีจบ ก็ได้ถามมติต่อที่ประชุม

ซึ่งนายสุเทพได้ลุกขึ้นพูดทันทีว่า ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง จึงขอให้เป็นมติเอกฉันท์ ไม่มีความขัดแย้งกัน ขอให้เป็นอำนาจของนายกฯอย่างชัดเจน ไม่ควรมีใครมาทักท้วงอะไรอย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายนายกฯก็ยังกำชับส.ส.ให้กลับไปศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน เพื่อที่จะไปอธิบายให้ชาวบ้านได้รับทราบ เพราะเชื่อว่าในแต่ละพื้นที่อาจมีการเอาเรื่องนี้ ไปพูด โดยเฉพาะกรณีหมดอายุความ ส.ส.จะได้อธิบายให้ประชาชนทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์ไมได้ชนะฟาล์ว
 
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรค กล่าวว่า นายสุเทพได้อธิบายให้กับที่ประชุมทราบว่าในปีหน้า จะเป็นปีแห่งการเลือกตั้ง

ดังนั้นการระดมทุนถือเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคได้ตั้งคณะกรรมการระดมทุน โดยมีส.ส.ร่วมเป็นกรรมการ 79 คน เพื่อร่วมกันจัดงานระดมทุน โดยมีการกำหนดวันระดมทุนเป็นวันที่ 8 มี.ค.2554 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ จึงขอให้ส.ส.ทุกคนเชิญผู้สนับสนุนและผู้ชื่นชอบพรรปคระชาธิปัตย์มาพบปะรวมประมาณ 3,000 คน โดยมีการแบ่งงานรับผิดชอบอย่างชัดเจน และในงานดังกล่าว จุดสำคัญจะอยู่ที่นายกฯ จะพูดถึงทิศทางการเตรียมการเลือกตั้ง ซึ่งนายสุเทพได้แซวกลางที่ประชุมว่าขอให้นายกฯอย่าเพิ่งยุบสภาก่อนวันที่ 8 มี.ค. โดยนายกฯ ก็ได้บอกว่าไม่ยุบสภาก่อนวันที่ 8 มี.ค.แน่นอน อย่างไรก็ตาม นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.กทม.ได้เสนอว่าจะแต่งเพลงของพรรคให้ใหม่ เพื่อให้ทันยุคสมัย