นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาดำเนินคดีในประเทศไทย
ซึ่งมีข่าวว่าขณะนี้อยู่ที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต (ยูเออี)ว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศเพราะเป็นการตัดสินใจและดุลยพินิจของเขา มี 2 หลักด้วยกัน คือ 1.หลักปฏิบัติต่างตอบแทน 2.มีข้อตกลงว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนการตัดสินใจเป็นขบวนการยุติธรรมของเขา และประเด็นปัญหาที่เป็นภาระหนักใจของมิตรประเทศก็ คือเขาต้องมั่นใจ 100% ว่าไม่มีนัยะทางการเมืองว่าด้วยการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่ประเด็นของพ.ต.ท.ทักษิณมีทั้งเรื่องการเมือง ทั้งเรื่องคดีอาญา เลยแยกแยะลำบาก เป็นเรื่องที่ต้องเห็นใจประเทศเหล่านั้นที่ตัดสินใจ แต่ว่าถ้าเป็นคดีเช่น วิกเตอร์ บูธ ไม่มีนัยะทางการเมือง เป็นคดีอาญาแท้ๆรัฐบาลไทยก็ตัดสินใจง่าย หรือคดีของนายราเกซ สักเสนา ที่ส่งมาจากแคนนาดา ดังนั้นการตัดสินใจอะไรก็อยู่ที่ดุลพินิจของแต่ละประเทศ
ขณะนี้กระทรวงกำลังเจรจาอยู่ ก็มีความคืบหน้า ก็เหลือหลายประเทศ ก็เลยไม่ได้ทันทีทันควัน เราก็ไปเจรจากับหลายประเทศร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด ก็อยู่ระหว่างการเจรจาให้แล้วเสร็จ อย่างไรก็ตาม ที่ตนเองพูดถึงคือหลักปฏิบัติต่างตอบแทนในบางประเทศไม่จำเป็นต้องมีข้อตกลง เขาก็สามารถให้ความร่วมมือกับเราได้ แต่บางประเทศต้องมีความตกลง ก็อยู่ที่เขาว่าจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนเป็นเพราะปัญหาความสัมพันธ์ส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศนั้นๆ หรือไม่นั้นไม่จริง แต่เราเข้าไปตัดสินใจอะไรแบบนั้นไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน เป็นเรื่องของการเดาความหรือการตีความ ต้องเอาหลักกฎหมายอย่างเดียวเท่านั้นเองเอามเป็นตัวตั้ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
