“แม้ว”โฟนอินน้อยเพราะกลัวถูกไล่ล่า

“กษิต” คุยโวหลังตามไล่ล่า “ทักษิณ” โฟนอินน้อยลง ย้ำประสานงานดูไบตลอด แต่ต้องเคารพกติการะหว่างประเทศ

วันนี้ (28 ธ.ค.) นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีความคืบหน้าการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทย ว่า เป็นไปตามครรลอง ที่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจการตัดสินใจของประเทศนั้น ๆ ซึ่งมี 2 หลัก คือ หลักการปฏิบัติต่างตอบแทน และข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนการตัดสินใจเป็นกระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้น ๆ แต่ที่เป็นภาระหนักใจของมิตรประเทศ คือ เขาต้องมั่นใจ 100% ว่า ไม่มีนัยยะทางการเมืองว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่ประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มีทั้งเรื่องการเมือง และคดีอาญา จึงต้องเห็นใจประเทศเหล่านั้น และเราพยายามชี้แจงว่าทั้งหมดเป็นเรื่องคดีอาญา ส่วนเรื่องการทำสนธิสัญญาในการขอส่งตัวมานั้น ก็มีความคืบหน้าในหลายประเทศ โดยกำลังเจรจากับหลาย ๆ ประเทศ ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด อยู่ในกระบวนการด้วย 
   
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับบรรดานักการเมืองที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่

นายกษิต กล่าวว่า เราทุกคนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ประเทศต่าง ๆ เหล่านั้น ได้บอกกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ประเทศเป็นฐานทางการเมือง ซึ่งระยะหลังจะเห็นว่าการโฟนอินเบาบางลงไป ซึ่งเราไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน อาจจะอยู่บนเครื่องบินแล้วโทรศัพท์มาก็ได้ ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองเดินทางไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบนั้น ก็เป็นเรื่องของนักการเมืองที่ประเทศนั้น เขาก็ต้องให้ความร่วมมือ และเป็นเรื่องของหลักฐาน เพราะเราก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาไปนั่งคุยอะไรกัน ทั้งนี้ เรามีการประสานงานกับยูเออีมาตลอด แต่อยู่ที่ดุลพินิจของเขา และขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเราเป็นประเทศที่เคารพในกติการะหว่างประเทศ.