นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการไปดูงานด้านการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ประเทศไอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า
การดูงานในครั้งนี้สามารถนำบางอย่างมาประยุกต์ใช้กับประเทศไทยได้ เนื่องจากประเทศไอร์แลนด์กับสหราชอาณาจักร เคยมีความขัดแย้ง เนื่องจากชาวไอริชนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ส่วนสหราชอาณาจักรนับถือโปรเตสแตนต์ มีการปะทะระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ ตลอดระยะเวลา 30 ปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5,000 คน และบาดเจ็บกว่า 45,000 คน ซึ่งผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นประชาชนถึงร้อยละ 70 และมีผู้ถูกจับกุมถึง 30,000 คน จนกระทั่งสหราชอาณาจักรใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการเจรจา จนเกิดความสงบและสำเร็จในปี ค.ศ.1998 แต่ก็ยังมีกลุ่มหัวรุนแรงไออาร์เอที่ไม่เห็นด้วยตามข้อตกลง จึงก่อความไม่สงบเพราะต้องการที่จะแบ่งแยกดินแดน
"ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน 3 อำเภอ ทั้ง อ.เบตง จ.ยะลา อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ อ.แว้ง จ.นราธิวาส อย่างไรก็ตาม ทาง สมช.อาจจะเห็นว่าพื้นที่อื่นยังไม่เหมาะสม จึงให้ยกเลิกเพียง อ.แม่ลานก่อน"
นายถาวรกล่าวว่า สำหรับนโยบายการเปิดกว้างในพื้นที่นั้น ขณะนี้ ตนได้ยกร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลตามหลักศาสนาอิสลามหรือที่เรียกว่า ศาลชาลีอะ เพื่อพิจารณาความตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงยุติธรรม ก่อนที่จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป