บก.น.3 โชว์ฟอร์มรวบ "ส.ต.อ.หญิง" สังกัด สทส.กับ "ส.อ.หญิง" กรมสรรพาวุธทหารบก รวมหัวตุ๋นตำรวจชั้นประทวน อ้างช่วยสอบเลื่อนชั้นสัญญาบัตร หัวละ 4 แสน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รอง ผบช.น.แถลงข่าวกรณี พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร ผบก.น.3 พ.ต.อ.สุเทพ ภูยานนท์ ผกก.สน.ประชาสำราญ รรท.ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.วรฤทธิ์ ศูนยะคณิต พ.ต.ท.ถนัด นักธรรม รอง ผกก.สส.บก.น.3 ร่วมกับ พ.ต.ท.ดำรงสิทธิ์ โมราฤทธิ์ รองผกก.4 บก.ป. และพ.ต.ท.อดุลย์ เทพิกัน รองผกก.3 บก.ปอท.จับกุม น.ส.ปาลิณีย์ ศศิธรรมโรจน์ หรือ ส.ต.อ.(หญิง)ทิพวรรณ เพชรทอง อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(สทส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่บ้านเลขที่ 521 หมู่ 1 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง
ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2814/2553 ลงวันที่ 17 ธ.ค.2553 และนางพิศารัตน์ หรือ ส.อ.(หญิง)พิไรพร จีนสมบูรณ์ อายุ 36 ปี ทหารสังกัดกรมสรรพาวุธทหารบก ย่านเกียกกาย อยู่บ้านเลขที่ 217/178 หมู่ 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2850/2553 ลงวันที่ 21 ธ.ค.2553
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ที่บก.น.3 ตั้งอยู่ที่สน.มีนบุรี หลังจากติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน
โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง และเรียกหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีการทุจริต หรือผิดกฎหมาย หรือโดยอิทธิพลของตนให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นคุณ หรือเป็นโทษแก่บุคคลใด
พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร ผบก.น.3 กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวนหลายรายว่า
มีแก๊งเรียกรับเงินในการทุจริตเพื่อสอบคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเป็นข้าราชการตำรวจสัญญาบัตรครั้งที่ผ่านมา ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร.จึงสั่งการให้สืบสวนจับกุมขบวนการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่หน่วยงานตำรวจ และเพื่อให้กระบวนการสรรหา หรือคัดเลือกบุคลากรดังกล่าวเป็นไปด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ และโปร่งใส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนรวมรวมพยานหลักฐาน จากนั้นทำทีติดต่อกับผู้ต้องหาเพื่อให้ช่วยเหลือในการสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ ผู้ต้องหาเรียกเงิน 4 แสนบาท และต้องมัดจำเงินไว้ก่อน 5 หมื่นบาท โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะวิ่งเต้นช่วยเหลือด้วยการแก้ไขกระดาษคำตอบให้หลังจากการเข้าสอบเรียบร้อยแล้ว