“ถวิล”เผยเล็งเลิก พ.ร.ก.อังคารนี้

“เลขาฯ สมช.” เผยเตรียมเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อังคารนี้ ชี้การข่าวไม่พบก่อเหตุวุ่นวายช่วงปีใหม่ แต่ไม่ประมาทจับตาใกล้ชิด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. ที่สโมสรทหารบก นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า คณะกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เห็นพ้องต้องกันให้เสนอยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้กำลังเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้นำเข้าหารือ ครม. อีกครั้ง แต่ที่ยังไม่สามารถยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ทันที เพราะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กำลังดูแผนรองรับสถานการณ์ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ พ.ศ.2551 ซึ่งจะไม่มีการประกาศพื้นที่หรือออกข้อกำหนดใดเป็นพิเศษ แต่เป็นแผนบูรณาการการทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อให้แผนรองรับสถานการณ์มีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้แผนรองรับสถานการณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว และตนได้เห็นแผนนั้นแล้ว แต่ทาง กอ.รมน. ขอดูอีกนิด โดยที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หมวด 1 หมวด 2 ไม่ได้ติดปัญหาในเรื่องใดเพียงแต่ดูเรื่องความเรียบร้อยเท่านั้น คิดว่านายกฯ นำเข้า ครม.วันที่ 21 ธ.ค.นี้ และน่าจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ในวันนั้น

นายถวิล กล่าวต่อว่า สำหรับ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นกฎหมายปกติ

ในหมวด 1 เป็นแผนงานของเจ้าหน้าที่ในการบูรณาการการทำงานของ ทหาร ตำรวจ พลเรือน การข่าว ความมั่นคง โดยเป็นกฎหมายปกติ ไม่มีอะไรที่กระทบสิทธิประชาชน ซึ่งการใช้หมวดที่ 1 โดยไม่มีข้อกำหนดอะไรเป็นพิเศษเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำงานได้ ส่วนหมวด 2 จะประกาศใช่ต่อเมื่อมีสถานการณ์ที่รุนแรงโดยมีข้อกำหนดต่าง ๆ ตามเหตุการณ์นั้น

เมื่อถามถึงด้านการข่าวก่อเหตุช่วงปีใหม่ ภายหลังเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

นายถวิล กล่าวว่า ขณะนี้ด้านการข่าวยังไม่พบว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงในระยะอันใกล้นี้ จึงมั่นใจว่ากลไกของตำรวจจะสามารถทำงานได้หากเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว อย่างไรก็ตามหน่วยงานความมั่นคงจะไม่ประมาทจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อถามว่า หากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไปแล้วเกิดเหตุวุ่นวายจะกลับมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีกครั้งหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า การตัดสินใจอยู่ที่ ครม.เพราะการประกาศใช่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องนำเสนอ ครม.เจ้าหน้าที่ความมั่นคงไม่มีอำนาจการประกาศใช้ ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงไม่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะยกระดับการชุมนุมอย่างไรก็ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายก็พอ.