ปชป.โชว์ตัวเหยื่อถูกสมาชิก ทรท.หลอกลงสมัครพรรคเล็ก
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 มีนาคม 2549 15:11 น.
สุเทพ เทือกสุบรรณ เปิดตัวเหยื่อถูก เจ๋ง ดอกจิก หลอกให้ลงสมัครพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ที่ตรัง เผยได้ค่าตอบแทนคนละ 30,000 บาท แนะ กกต.สอบคุณสมบัติให้รอบคอบ ขณะผู้ถูกหลอกแฉมีคนในหมู่บ้านมาติดต่อ ปัดไม่ทราบผู้จ้างวานเป็นใคร รับมีคนแนะให้มาปรึกษาสุเทพ ด้าน ถาวร จี้ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขต คาด ทรท.จะได้คะแนนเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 20
วันนี้ (12 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคได้รับการร้องเรียนจากผู้สมัคร ส.ส.จ.ตรัง จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า 3 คน ประกอบด้วย น.ส.นิภา จันโพธิ์ ผู้สมัครเขต 1 น.ส.รัชนู ต่างสี เขต 2 และนายสุวิทย์ อบอุ่น เขต 4 ซึ่งทั้งหมดอาศัยอยู่ใน ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ว่า ได้ถูก นายประมวล ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก หลอกลวงให้มาลงสมัคร ส.ส.โดยได้นัดหมายให้มาสมัครสมาชิกพรรคดังกล่าว ที่โรงแรมลิเบอร์ตี้ ที่กรุงเทพฯ และพาไปถ่ายรูป เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้จ่ายค่าตอบแทนให้คนละ 30,000 บาท และบอกให้ไปสมัคร ส.ส.ในวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
แต่เมื่อสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวการส่งผู้สมัครจากพรคการเมืองขนาดเล็กว่า มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน ทำให้ทั้งสามเกรงกลัวว่าจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 100 ต้องระวางโทษว่าจะต้องถูกจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 และถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
จึงมาพบตน เพื่อขอคำปรึกษาในเรื่องนี้ ซึ่งตนได้แนะนำว่า ให้ทั้ง 3 คนลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า แต่ปัญหา คือ ทั้งหมดไม่รู้ว่าที่ทำการพรรคนี้ตั้งอยู่ที่ใด ตนจึงแนะให้ยื่นหนังสือลาออกที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลาง และ กกต.จังหวัด ให้พิจารณาว่าขาดคุณสมบัติ และไม่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ทั้งสามไม่ทราบว่าขบวนการหลอกให้มาสมัคร ส.ส.นี้ มีความเกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ กกต.ในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม จากการพูดคุยกับบุคคลทั้ง 3 พบว่า ทั้งหมดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และจะแสดงความบริสุทธิ์ด้วยการทำบันทึกให้ กตต.เพิกถอนสิทธิการเป็นผู้สมัคร เมื่อรู้ว่าตัวเองขาดคุณสมบัติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา รวมทั้งลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคนี้ด้วย ซึ่งพรรคจะทำร่างหนังสือดังกล่าว โดยมอบหมายให้ นายสุวโรช พะลัง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นำไปยื่นต่อ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต.เพื่อให้ตระหนักว่าขณะนี้มีขบวนการที่ทำให้เกิดการทุจริตการเลือกตั้ง และกรณีของบุคคลทั้งสามนี้ ชี้ให้เห็นว่า อาจมีการทุจริตเช่นนี้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ การหลอกให้มาสมัคร ส.ส.นั้น มีมานานแล้ว ซึ่งเป็นการหลอกให้ไปสมัครในพรรคต่างๆ โดยผู้ที่หลงเชื่อก็จะคิดว่าไม่ผิดกฎหมาย เหตุที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ เพราะไม่อยากให้มีผู้บริสุทธิ์เป็นเหยื่อของการเลือกตั้งอีก
ด้าน นายสุวิทย์ กล่าวว่า การติดต่อให้ตนมาลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้ ได้มีคนในหมู่บ้านเป็นผู้ติดต่อ ซึ่งตนไม่ทราบว่าผู้ที่จ้างวานให้มาติดต่อนั้นเป็นใคร เพราะมีลักษณะการดำเนินการแบบแชร์ลูกโซ่ ตนไม่เคยกระทำผิดกฎหมาย แต่เมื่อรู้ว่าการสมัครครั้งนี้มีความไม่ชอบมาพากล จึงไปปรึกษาผู้รู้ที่ได้แนะนำให้มาหานายสุเทพ
นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บุคคลที่เป็นผู้ใช้ หรือสนับสนุนให้ผู้สมัครที่รู้ตัวอยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ ถ้าผู้ใช้เป็นพรรคการเมือง กกต.จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ออกคำสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มาตรา 66(3) และ 66(4) แต่หากเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไป กกต.ถือเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษ
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ กกต.ให้ความสำคัญในการเข้าไปตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขต ไม่ใช่เฉพาะเขตที่มีผู้ร้องเรียนเท่านั้น เพราะได้ทราบว่า มีอีก 59 เขตเลือกตั้ง ที่คาดว่าพรรคไทยรักไทยจะได้คะแนนเลือกตั้งไม่ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่นั้น ซึ่งมีพรรคเล็กส่งผู้สมัครลงประกบกับพรรคไทยรักไทย และเชื่อว่า การตรวจสอบว่าเรื่องนี้เกี่ยวโยงไปถึงพรรคการเมืองใหญ่หรือไม่นั้น คงไม่เกินความสามารถของ กกต.
ทั้งนี้ หาก กกต.พิจารณาเห็นว่า มีการทุจริตในการเลือกตั้งจำนวนมาก กกต.สามารถปรึกษากับรัฐบาลว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะให้รัฐบาลดำเนินการในส่วนการออกพระราชกฤษฎียกเลิกการเลือกตั้ง หรือจะอ้างความชอบธรรมที่ได้รับจากประชาชน ซึ่งพรรคจะไม่เข้าไปก้าวก่ายและไม่ชี้นำการตัดสินใจของ กกต.และรัฐบาล เพราะคิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจว่าควรดำเนินการอย่างไร