นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม
ถึงกรณีการเปิดเผยข้อมูลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า ฝ่ายทหารและรัฐบาลได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลที่ได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงขอท้าไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ว่า หากเปิดคำให้การของทหารจาก จ.ลพบุรีที่รับต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะพบข้อมูลและข้อเท็จจริงว่า ทั้ง 5 คนได้ใช้อาวุธปืนยาวประจำกายยิงเข้าไปในวัดปทุมวนารามจริง และผลการตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย และสถานที่เกิดเหตุ ก็ระบุว่า วิถีกระสุนเป็นการยิงจากบนลงล่าง โดยมีทิศทางมาจากบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส และหากเป็นจริงตามสำนวนของดีเอสไอ นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพและพล.อ.ประยุทธ์ จะรับผิดชอบอย่างไร
"ดีเอสไอได้ทำสำนวน 10 เรื่องแล้วเสร็จ และยืนยันว่าการตายของประชาชนเป็นการเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น หากยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบจากคนในรัฐบาล วันที่ 23 ธันวาคม จะนำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสาธารณชนทั้งหมดเท่าที่ดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีอยู่ และนอกจากผมจะมีสำนวนชุดนี้อยู่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และสำนักงานกฎหมายอัมเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ก็มีข้อมูลทั้งหมดอยู่เหมือนกัน" นายจตุพรกล่าว
นายจตุพรกล่าวว่า มีความพยายามกดดันแทรกแซงจากผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งฝ่ายทหารและรัฐบาลต่อคดีนี้
โดยเฉพานายพลตำรวจอักษรย่อ "อ" ที่หวังเติบโตในอาชีพราชการทางลัด รับอาสาจากผู้ใหญ่ทางฝ่ายทหารและรัฐบาลจะดึงคดีให้ล่าช้า หรือที่เรียกกันว่ารำวง ระหว่างดีเอสไอกับตำรวจตลอดเวลาไม่ยอมสั่งฟ้อง ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตอนนี้มีความพยายามจากบิ๊กทหารบางคนเสนอให้ย้ายออกจากดีเอสไอเพราะหมดประโยชน์แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพรได้นำสำเนาคำให้การของพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ในระหว่างที่นายฮิโระ มูราโมโตะ ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ส ชาวญี่ปุ่น ถูกยิงเสียชีวิต
บริเวณสี่แยกคอกวัว ที่ได้ให้การไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามหลายคนมาเปิดเผย ซึ่งมีทั้งผู้ร่วมชุมนุมและเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง ให้การตรงกันว่ากระสุนปืนที่ยิงใส่ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นมาจากแนวของทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนิน