ผู้ชุมนุมแฉกันเอง มีรับเงิน10ล้าน

กรณีที่กลุ่มพลังมวลชนต่างๆประกาศจัดชุมนุมใหญ่ที่สนามหลวงในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ เพื่อต่อต้านรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ส่งผลให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าอาจเกิดสถานการณ์วุ่นวายขึ้นอีกครั้งนั้น ล่าสุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. เปิดเผยว่า จะนัดเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน โดย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงาน วางคิวจะนัดแกนนำผู้ชุมนุมมาเจรจาในวันที่ 7 ธ.ค.นี้

สุรยุทธ์ ไม่ห่วงผู้ชุมนุม 10 ธ.ค.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้ สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในระหว่างการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคัดค้านรัฐบาล และ คมช.ในวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมถึง 30,000 คนว่า คงให้เป็นหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่จะดูแล ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลว่าจะเกิดปัญหาความวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า คงไม่มีปัญหา แนวคิดของรัฐบาลคือแนวทางการเจรจาและทำความเข้าใจกัน ไม่ได้มีมาตรการบังคับ จะขอฟังมากกว่า

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ว่า การแสดงความเห็นในทางการเมือง โดยไม่ได้กระทบ กระเทือนอะไร เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึกใน กทม.ไปแล้ว เมื่อจะเข้ามาก็มา จะพูดจาปราศรัยอะไรก็ว่าไป แต่มาแล้วต้องไม่ก่อความเดือดร้อน ไม่สร้างปัญหา ไม่ทำให้รัฐบาลต้องเดือดร้อน ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าว มีเจตนากดดันหรือสร้างความแตกแยกหรือไม่ นายอารีย์ตอบว่า ไม่ได้ประเมินแบบนั้น ถึงแม้ประเมินอย่างไรก็ไม่บอก นอกจากนี้รัฐบาลไม่มีสิทธิไปสกัดกั้น

วินัย มั่นใจ ตร.คุมสถานการณ์ได้

พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ใน ฐานะเลขาธิการ คมช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่องค์กรภาค ประชาชนหลายกลุ่มนัดชุมนุมกันในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ เพื่อต่อต้าน คมช.ว่า เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องดูแลไป อย่างไร ก็ตามที่ผ่านมาแม้มีการประกาศกฎอัยการศึก แต่ก็ยังมีการชุมนุมอยู่ หากเป็นการชุมนุมโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีฝ่ายใดนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เราจับตาดูอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.วินัยกล่าวว่า คิดว่าได้ เพราะตำรวจดูแลมาตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ปัญหาคลื่นใต้น้ำเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.วินัยกล่าวว่า ไม่ได้มีมากมายอะไร แต่ก็ พอมีอยู่บ้าง คิดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ไม่มีปัญหา

ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคมช. กล่าวถึงกรณีที่ระบุว่าหลังได้รับรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการต่างๆในรัฐบาลชุดก่อนจาก คตส.แล้วอยากร้องไห้ เพราะมีการโกงกินจนประเทศ ชาติเกือบเหลือแต่กระดูกว่า คงไม่ต้องกำชับอะไรเพิ่มเติมกับ คตส. เพราะ คตส.กำลังดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อ คตส.มาเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น จึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เราทุกคนที่เป็นคนไทยต้องห่วง และกังวลว่าภาษีที่เสียไป ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อะไรบ้าง ครบถ้วนหรือไม่ เราเป็นเจ้าของประเทศ ต้องศึกษาบ้าง จึงบอกว่าคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน อย่าทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ และเราก็หวังว่าอยากจะให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้าได้ ขณะนี้กำลังทยอยพบกับกลุ่มพลังต่างๆที่เตรียมจะชุมนุมเพื่อทำความเข้าใจ

สพรั่ง เหน็บผู้ชุมนุมต้าน คมช.

พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มขับไล่คมช.และรัฐบาลในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ว่า การเผชิญหน้ากับผู้ที่มีความคิดเห็นตรงข้าม ถ้ามีความบริสุทธิ์ใจเราก็จะเชิญมาพบพูดคุยกัน แต่ถ้ายังใช้หลักการที่ว่าจะแสดงออกเป็นอคติกับ คมช.หรือรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลความถูกต้อง เหตุผล ถ้าคิดรักบ้านรักเมืองจริงๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือเรื่องจริยธรรมของนักการเมือง ทำไมไม่พูด กลับมาพูดถึงเรื่องการต้านอำนาจ ถ้า คมช.เลวป่านนี้ต่างชาติบอยคอตไปนานแล้ว แต่ต่างชาติไม่ได้คิดเช่นนั้น เราเห็นใจประชาชนที่ไม่ได้รับการปลูกฝังประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุให้ความเข้าใจอย่างผิวเผินว่าต้องมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเท่านั้น

พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า อยากฝากถึงผู้ที่ต่อต้าน คมช. ว่าได้คำนึงว่าสิ่งที่ทำไปเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองหรือไม่ ต่อต้านในสิ่งที่ถูกหรือเปล่า ทำไมไม่ต่อต้านสิ่งที่เลว พูดกันตามตรงมวลชนต่างๆที่มาเพราะมีแรงจูงใจบางอย่าง ซึ่งเราไม่นิ่งนอนใจ เพราะไม่ประมาทต่อพวกลัทธิฉวยโอกาส คนที่คิดไม่ดียังมีความพยายามอยู่ กลุ่มต่อต้าน คมช.คือกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ เป็นพวกมีธุรกรรมมีกิจกรรมสนับสนุนการเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์

ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ยังตรวจสอบความเคลื่อนไหวของคลื่นใต้น้ำในต่างจังหวัดหรือไม่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ความพยายามยังมีในแต่ละจุดแต่ละจังหวัดที่จะเคลื่อนไหว แต่เขาชั่งใจอยู่ว่า คมช.เอาจริงหรือไม่ คนที่คิดต่อต้านโดยใช้อำนาจเก่าๆวิธีเก่าๆ บอกได้เลยว่าไม่สำเร็จ เพราะ คมช.เข้ามาเพื่อยุติวิกฤติทางการเมือง

ชี้มีคนส่งเงินสนับสนุนผู้ชุมนุม

ต่อข้อถามว่ายังมีการส่งท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มเคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า สมมติฐานมันมี เพราะไม่มีผู้ยากไร้เดินทางมาฟรีโดยไม่มีการเตรียมการ เงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า อาหารแต่ละมื้อต้องดูแลครอบครัว แต่การที่เขามาอยู่ในจุดที่มีการเตรียมการนั้น ต้องประณามกันว่าเป็นตัวทำลายประชาธิปไตย เพราะไปส่งเสริมคนเลว มันผิดคุณธรรมของชาติ เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลัง พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า จะอยู่หรือไม่เขาก็ได้รับผลทางบวก เพราะถ้ามีความเคลื่อนไหวอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณก็รู้สึกว่าความหวังยังมี เมื่อถามว่าจะดำเนินการกลุ่มที่ออกมายั่วยุทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความแตกแยกอย่างไร พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า คมช.จะเชิญมาพบ มีอะไรก็มาว่ากัน และจะให้สื่อมวลชนมารับฟังด้วย

เมื่อถามว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มเสียประโยชน์แล้วอ้างรักประชาธิปไตย พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบในความย่อหย่อนและทำตัวลักษณะเอาตัวรอด ส่วนราชการทุกส่วนที่ร่วมมือกับกองทัพต้องแสดงความจริงใจ ถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบและความรักบ้านเมือง ตนจะเป็นคนประกาศให้โลกรู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ควรทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองต่อไป เพราะเห็นแก่ตัว อยู่รอดทุกยุคทุกสมัยได้อย่างไร ต้องเลือกข้างความดีกับความเลว ถ้าจะเป็นคนเลวต้องแสดงให้ชัด สังคมจะได้ประกาศให้โลกรู้

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กลุ่มเหล่านั้นต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาหรือไม่ แล้วอย่าเอามาโยงกับการต่อต้านคมช.โดยเด็ดขาด เรารับไม่ได้

เช็กข่าวพบ 3 กลุ่มรับเงินเคลื่อนไหว

รายงานข่าวจาก คมช. แจ้งว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ และหน่วยงานด้านข่าวกองทัพภาคที่ 1 ตรวจสอบความเคลื่อนไหวกลุ่มต่างๆใน กทม. ที่จะไปร่วมชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค. เนื่องจากได้ข้อมูลว่ามีนักการเมืองจ่ายเงินให้กับมวลชน เพื่อจัดตั้งผู้ชุมนุมไปร่วมชุมนุม จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบการเคลื่อนไหวของมวลชน 3 กลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นวินมอเตอร์ไซค์ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มบางกรวย-เตาปูน ได้รับค่าแรงหัวละ 300-500 บาท มีการจ่ายเงินผ่านผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ชื่อ นายวิเชียร กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มชุมชนคลองเตย-กล้วยน้ำไท ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยไปร่วมชุมนุมกับผู้ชุมนุมคาราวานคนจน ที่สวนจตุจักร ได้รับค่าเหนื่อยคนละ 300-500 บาท เช่นกัน จ่ายเงินผ่าน นายณรงค์ คนสนิทของนักการเมืองชื่อดัง กลุ่มที่ 3 คือกลุ่มแท็กซี่ มี นายชินวัตร เป็นผู้ติดต่อประสานงาน นัดพบจ่ายเงินกันที่ย่านหมอชิต รับค่าจ้างคันละ 1,000-2,000 บาท

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พล.อ.สนธิได้มอบหมายให้ พล.อ.สพรั่งรับผิดชอบการประสานงานนัดพบกลุ่มแกนนำที่จะชุมนุมต่อต้าน คมช. และรัฐบาล เพื่อทำความเข้าใจและรับฟังเหตุผลในการเคลื่อนไหว โดย พล.อ. สพรั่งจะเชิญแกนนำกลุ่มต่างๆเข้าพบในวันที่ 7 ธ.ค.นี้

ผู้นำผู้ชุมนุมแฉคนรับเงิน เนวิน-ยงยุทธ

ขณะที่นายชนาภัทธ์ ณ นคร ประธานกลุ่มประชาชน เพื่อประชาธิปไตย และประธานเครือข่ายเตมูจิน กล่าวถึงกรณีที่สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นกับสมาชิก อปท. ที่จะเข้าร่วมชุมนุมที่สนามหลวง ในวันที่ 10 ธ.ค.ว่า การที่มี ส.จ. และ ส.ท. ติดต่อขอเข้าร่วมชุมนุมต่อต้าน คมช. ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล สมาคมฯไม่มีสิทธิสั่งซ้ายหันขวาหันอยู่แล้ว ยืนยันว่า วันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะมี ส.จ. และ ส.ท.จากหลายจังหวัดเดินทางมาร่วมชุมนุมแน่นอน ส่วนกรณีที่นายสุดชาย บุญชัย สมาชิกกลุ่มประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกไล่ออกจากกลุ่มนั้น เนื่องจากถูกจับได้ว่าไปรับเงินเคลื่อนไหวมาจากนายเนวิน ชิดชอบ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ที่เป็นคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 10 ล้านบาท ดังนั้น จากนี้ไป การกระทำของนายสุดชายไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มของตน และทราบว่านายสุดชายได้เข้าไปร่วมกับกลุ่มคนวันเสาร์ ต้านเผด็จการ ที่มีนายสุชาติ นาคบางไทร หรือ สหายชาติ เป็นแกนนำ โดยจะไปชุมนุมกันในวันที่ 2 ธ.ค.