“นายกฯ”เผยทนายแกนนำแดงปฏิเสธรัฐช่วยเรื่องประกันตัว ระบุไม่หวั่นแดงนัดชุมนุมทุกเดือน
วันนี้ ( 11 ธ.ค.)ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง 11) ถนนวิภาวดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าจะมีการชุมนุมกันในทุกวันที่ 10 และ 19 ของทุกเดือน ว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีปัญหา ซึ่งตนขอให้อยู่ในแนวทางนี้ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ก็ไม่มีปัญหาต่อการยกเลิกการประกาศใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน สำหรับปัญหาด้านการจราจรนั้น ถ้าเป็นการมาเพื่อปิดถนนนั้นคงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการชุมนุมในสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ และมีจำนวนคนมาก ตนคิดว่าสามารถถ้อยทีถ้อยอาศัยได้
เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลเตรียมยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาใช้กฎหมายด้านความมั่นคงแทน จะมีปัญหาต่อการเคลื่อนไหวนัดชุมนุมหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเป็นจุดที่เราต้องประเมินต่อไป แต่การยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้นถ้าสามารถยืนอยู่ได้ในระดับที่เป็นอยู่ เราก็จะเลิกก่อนปีใหม่ แต่หลังจากที่เลิกไปแล้ว จะต้องมีแผนการรองรับ โดยจะมีการประเมินว่าเมื่อเลิกไปแล้ว มีอะไรที่ทำให้เปลี่ยนแปลงไปจากสภาพที่เป็นอยู่หรือไม่ ถ้าการเคลื่อนไหวยังเป็นไปในลักษณะที่เป็นอยู่ก็ไม่เป็นปัญหา ถือเป็นการใช้สิทธิซึ่งเราต้องเคารพ แต่ผู้ชุมนุมต้องเคารพสิทธิของประชาชนเช่นกัน
ส่วนการเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงให้มีการประกันตัวแกนนำนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็แปลกใจว่าขณะที่เขาเรียกร้องให้ดำเนินการปล่อยตัว แต่เมื่อกระทรวงยุติธรรมไปประสานงานเรื่องนี้ ปรากฏว่าทนายของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกลับปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าไม่ประสงค์ที่จะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปเกี่ยวข้อง แต่เราก็จะพยายามต่อไป โดยขอให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ไปสอบทานให้ชัดว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่
เมื่อถามว่าหมายความว่ารัฐบาลมีความพยายามที่จะปล่อยตัวแกนนำเสื้อแดงใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ เราประสานงานเพื่อที่จะรวบรวมข้อมูล เพราะนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ เสนอมาว่าถ้าเรื่องการคุมขังต่างๆกลายเป็นประเด็นปัญหา สามารถจะดูได้หรือไม่ว่าจะมีเงื่อนไขใด อย่างไร แล้วให้ดำเนินการ ซึ่งตนก็พยายามทำ แต่ต้องเจออุปสรรค ทั้งนี้ มันไม่ง่ายเพราะแต่ละคดีมีรายละเอียดมาก อย่างไรก็ตาม ในแง่ความเป็นอยู่ข้างใน เราก็พยายามดูแลกันอยู่ ทั้งนี้ ในส่วนของแกนนำ เราพยายามประสานงานไปเพื่อทำข้อมูลเบื้องต้น และก่อนหน้านี้ในระดับไม่ใช่แกนนำ เราก็ดำเนินการช่วยเหลือใน 5 ราย แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 2 ราย เพราะเห็นว่าพฤติกรรมในคดีมันอันตราย ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล