พท.อัดศาลรธน.ตัดสิน 2 คดียุบปชป.ทำนักกม.งงทั้งประเทศ บอกหากไม่อยากเป็นเสือกระดาษก็ฟ้องใหม่ “วิชาญ” แนะฟันอาญา
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ของศาลรัฐธรรมนูญว่า ทั้ง 2 คดีไม่เกินความคาดคิดของพรรคเพื่อไทย เราเฉย ๆ อยู่แล้ว เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะออกมาแบบนี้ แต่คะแนน 4 ต่อ 3 ถือว่าน่าเกลียดมาก การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก็ทำให้คนทั้งประเทศ นักกฎหมายในสถาบันต่าง ๆ และอัยการ งงกันมาก อยากให้ กกต.ที่กำลังตกเป็นจำเลยของสังคม ทั้งที่ในกลุ่ม กกต.ถือว่าเป็นนักกฎหมาย และผู้พิพากษาที่น่าจะจบจากสถาบันเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงมองคนละมุม คนละด้าน รวมถึงอัยการ น่าจะออกมาชี้แจงต่อสังคมให้มากกว่านี้ และที่บอกว่าจะมีการท้วง หรือเสนอยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณาคดีใหม่นั้น ความจริงตนเห็นว่าทั้ง 2 คดีที่ทำให้เกิดความเสียหายนั้น น่าจะเป็นคดีอาญา เจ้าทุกข์คือ กกต.ต้องไปยื่นฟ้องคดีอาญาต่อ อย่างไรก็ตามตนก็เห็นใจ กกต.ที่ไม่ได้มองมุมนี้
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้พรรครู้สึกแปลกใจในการทำงานของกกต. ไม่น่าเชื่อว่า กกต.จะตกม้าตาย แพ้ฟาว์ลในคดีของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสองคดี ทั้งที่กกต.เป็นมืออาชีพ และเป็นผู้พิพากษา จึงอดกังวลใจแทนประชาชนไม่ได้ว่า จะไว้ใจองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญได้แค่ไหน ในการต่อสู้แทนประชาชน ทั้งนี้หากกกต.ยืนยันว่า ไม่บกพร่อง ก็ต้องหยิบกระจกมาส่องตัวเองว่า ยังไหวหรือไม่ หากคิดว่า ยังไหวอยู่ จะต้องหามุมมาฟ้องใหม่ให้ได้ มิเช่นนั้นแล้วจะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างไร หากไม่อยากถูกกล่าวหาเป็นแค่เสือกระดาษ ก็ต้องต่อสู้แทนประชาชนให้ได้ ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ขู่กกต.ว่า หากมีการฟ้องยุบพรรคประชาธิปัตย์อีก อาจเข้าข่ายให้การเท็จนั้น แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์กำลังขนหัวลุก ปอดแหก ทั้งที่เป็นโอกาสทองที่จะได้ฟอกตัวเองให้ขาวสะอาด ได้รับการชูมือแบบเอกฉันท์ หากฟ้องใหม่แล้ว มีเหตุผลว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ผิด พรรคเพื่อไทยจะส่งกระเช้าดอกไม้ไปอวยพรเพราะเป็นการชนะแบบขาวสะอาด
นายจิรายุกล่าวว่า ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ขู่จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการย่ามใจเพราะคิดว่ามีแบ็คดี มีอำนาจ วาสนาอุ้มสม หากอยากจะฆ่าพรรคเพื่อไทยให้ตายไปจากระบอบประชาธิปไตยก็เชิญ พรรคเพื่อไทยจะโดนยุบอีกสักครั้งก็จะทน จะได้เป็นประวัติศาสตร์การเมืองจะได้บันทึกไว้ว่า บ้านเมืองยุคปี 2553 เกิดอะไรขึ้น จะได้จดจำความอัปยศ อดสู หากถึงวันนั้นไม่มีฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแบบไม่มีฝ่ายค้าน จะได้กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา ถ้ายังไม่อายทำได้ก็ทำไป แต่พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า ท่านไม่มีวันฆ่าหัวใจของประชาชนได้แน่นอน.