เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรึงราคาสินค้าภายหลังคณะกรรมการค่าจ้างมีมติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ระหว่าง 8-17 บาท มีผลในวันที่ 1 มกราคม 2554 ว่า กระทรวงพาณิชย์จะรายงานให้ทราบในคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าหรืออาจจะเป็นสัปดาห์ถัดไป เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างขอความร่วมมือให้ช่วยกันตรึงราคาสินค้าอยู่
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานเรียกร้องว่าจังหวัดใดที่ปรับขึ้นค่าแรงไม่ถึง 10 บาท ขอให้ทบทวนให้มีการปรับขึ้นอีกว่า จังหวัดที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่ถึง 10 บาท เป็นการประเมินจากค่าครองชีพในจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ มติของคณะกรรมการค่าจ้างดังกล่าวจะต้องนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.อีกครั้ง โดยขอยืนยันว่าการขึ้นค่าตอบแทนต้องไปทั้งระบบ โดยส่วนตัวยังกังวลอยู่ว่า เพราะการขึ้นเงินเดือนข้าราชการเดือนเมษายนปีหน้า อาจเกี่ยวกับนักการเมืองด้วยซึ่งพยายามหาทางออกอยู่ อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่ทำเพื่อนักการเมืองชุดนี้ แต่อาจจะให้ขึ้นในชุดถัดไป โดยจะดูอัตราที่เหมาะสม เนื่องจากมีตัวยึดอยู่ เช่น ตำแหน่งประธานศาลฎีกา ประธานรัฐสภา และนายกรัฐมนตรี จะได้อัตราเดียวกัน และปรับลดหลั่นกันลงมา แต่กฎหมายปัจจุบัน เวลาปรับเงินเดือนข้าราชการ ประธานศาลฎีกาและนายกฯจะได้ไปโดยอัตโนมัติ แต่ประธานรัฐสภาจะไม่ไปด้วย
"ผมพยายามหาทางออกให้เป็นเรื่องของระบบ เช่น ถ้าบอกว่าประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเงินเดือนน้อยกว่าฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายตุลาการ ก็คงตอบยาก ทั้งนี้ จะไม่ใช่ขึ้นแต่เงินเดือนของประธานรัฐสภา แต่ต้องขึ้นให้ ส.ส.ด้วย เพราะยึดโยงกันอยู่ โดยจะทำในสมัยสภาชุดนี้เพื่อให้มีผลในสภาชุดหน้า เพราะหากทำให้สภาชุดนี้ ก็จะหาว่าทำเพื่อตัวเอง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า ชาวบ้านพูดกันว่า ส.ส.ทำงานไม่คุ้มเงินเดือน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะกล่าวโดยทั่วไปไม่ได้ เพราะ ส.ส.หลายคนก็ทำงานหนัก สภาไม่ได้ล่มทุกครั้ง และการล่มก็ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ ทั้งนี้ เงินเดือนนักการเมืองไม่ได้ขึ้นตามเงินเดือนราชการมาแล้วถึง 2 รอบ ขอยืนยันไม่ได้หาเสียงในหมู่นักการเมือง เพราะผมจะทำให้มีผลในสภาชุดหน้า จึงยังไม่รู้เลยว่าไปหาเสียงกับใคร
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
