เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จำเลยร่วม 19 แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) คดีร่วมกัน หรือใช้ หรือสนับสนุน ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานก่อการร้าย มาเพื่อเริ่มกระบวนการพิจารณาคดี เนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมรัฐสภา สมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ วันที่ 24 พฤศจิกายนแล้ว ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดังนั้น จึงส่งผลให้การได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองความเป็น ส.ส.ของนายจตุพร สิ้นสุดลง ทั้งนี้ ผู้ร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวของนายจตุพรระหว่างการพิจารณาของศาลตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 ต่อไปด้วย คาดว่าศาลจะมีคำสั่งในช่วงบ่ายวันนี้
คำร้องของดีเอสไอ ระบุใจความนายจตุพรมีพฤติกรรมให้ข่าวต่อสื่อมวลชนว่าเจ้าหน้าที่รัฐทั้งอัยการ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ
ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อนายจตุพรและกลุ่มคนเสื้อแดงแบบ 2 มาตรฐาน ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงและเป็นอุปสรรคก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน และยังเป็นแกนนำหลักสำคัญกลุ่มคนเสื้อแดง เคยปลุกระดมกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกดดัน ข่มขู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และดีเอสไอ ให้ปล่อยตัวพวกจำเลยที่ถูกคุมขังทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นอำนาจและดุลพินิจของศาลที่พิจารณาคดีเท่านั้น จึงถือว่านายจตุพรจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นซึ่งต้องห้ามไว้ตาม มาตรา 108/1 (3) และนายจตุพรยังโทรศัพท์ข่มขู่นายเมธี อมรวุฒิกุล พยานสำคัญในคดีผ่านทางผู้ใกล้ชิดนายเมธี จึงเป็นการยุ่งเหยิงพยานหลักฐานตาม 108/1 (2)
ขณะที่ตรงข้ามกับนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย จำเลยร่วมอีกคน
และนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแต่ไม่เคยปรากฏว่าบุคคลทั้งสองมีพฤติการณ์ในทำนองเดียวกับนายจตุพรแต่อย่างใด ซึ่งตามพฤติกรรม นายจตุพรได้กระทำโดยมีเจตนาเพื่อประโยชน์ตัวเองกับพวกที่ถูกดำเนินคดี จึงสมควรที่ศาลจะหยิบยกกรณีนี้ขึ้นเพื่อเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวนายจตุพร และแม้ว่าศาลจะมีหมายนัดให้นายจตุพรเข้าสู่กระบวนพิจารณาคดี ในวันที่ 15 มกราคม 2554 แล้วก็ตาม แต่ผู้ร้องเห็นว่าเนิ่นช้าไปซึ่งกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ขณะที่วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา
เลื่อนนัดการสั่งคดี 9 แกนนำและแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และยุยงให้ประชาชนละเมิดกฎหมายแผ่นดิน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่สั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215 และ 216 กรณีที่กลุ่มพันธมิตรได้บุกเข้าไปชุมนุมต่อเนื่องกันในทำเนียบรัฐบาล นานถึง 193 วัน เมื่อปี 2551 เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังสอบพยานเพิ่มเติมตามที่ผู้ต้องหายื่นร้องขอความเป็นธรรมไม่แล้วเสร็จ จึงนัดสั่งคดีอีกครั้งในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10.00 น.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
