สุเทพ อ้อนอย่าแปลเจตนารัฐฯ ผิด

"สุเทพ" ปัดคงมาตรการลดค่าครองชีพเป็นการหาเสียง เย้ยเพื่อไทยเตรียมแฉทุจริต ขอให้ใช้หลักฐานจริง อย่าพูดลอยๆ 

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุม " World Congress  on High  Speed  Train" ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 6-9 ธ.ค.นี้ ถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศคงมาตรการลดค่าครองชีพต่อไปอีกทำให้ถูกมองว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้า ว่า ต้องให้ทุกฝ่ายพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม เพราะโครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาระยะเวลานานแล้วและรัฐบาลเห็นว่าในสถานการณ์อย่างนี้คนที่รายได้น้อยยังมีความยากลำบากอยู่สมควรที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปดูแลกันต่อไป สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความจริงใจของรัฐบาลอย่าได้แปลเป็นอย่างอื่น   ส่วนที่บางมาตรการอาจจะมีการประกาศเป็นมาตรการถาวร เช่น ค่าไฟฟ้า ตนยังไม่กล้าพูดเลย จนกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะหารือในที่ประชุม ครม.ให้ความชัดเจนเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งเพิ่มเงินเดือนนายก อบต.เป็นการหาเสียงเตรียมเลือกตั้งหรือไม่

นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ตามหลักการและกรอบการทำงานของรัฐบาลนั้นนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญดูแลเรื่องรายได้ประชาชนทุกกลุ่ม รัฐบาลไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง และแต่กลุ่มจะมีการขึ้นเงินเดือนอย่างไรต้องว่ากันไปตามกฎเกณฑ์กติกาและเหตุผล เช่นเดียวกับกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการเคยขึ้นเงินเดือนให้กับครู เรื่องเงินเดือนและค่าตอบแทนนั้นเป็นการปรับตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตามตนยังไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนในเรื่องนี้ 

เมื่อถามว่า คิดว่าจะทำความเข้าใจกับฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้อย่าได้มีฝ่ายตรงกันข้ามกันเลย เอาบ้านเมืองให้อยู่รอดปลอดภัย มีขวัญมีกำลังใจในการทำงานให้บ้านเมืองและประชาชนดีกว่า

"ถ้าจะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลก็สามารถทำได้ทุกเรื่องรัฐบาลเปิดเสรี แต่อย่าใส่สีตีไข่ เพิ่มเติมความมุ่งหมายพิเศษที่จะทำลายกัน มันเป็นประโยชน์อะไรกับบ้านเมือง" นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดเผย 120 โครงการที่มีรัฐบาลอาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้น

นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องทีดีหากฝ่ายค้านตั้งใจทำอย่างนั้นจริง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่บางคนพูดเลยเถิดว่ามีการคอรัปชั่น 25 %,40 % หากมีเบาแสะ ข้อมูลหลักฐาน นายกรัฐมนตรี จะได้ดำเนินการทุกเรื่อง เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นคนตั้งใจจริงที่จะที่ทำให้การบริหารราชการเป็นไปด้วยโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล แม้แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์เองที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดผลเสียหายนายกรัฐมนตรียังแก้ไขปัญหา หากเรื่องเหล่านี้มีข้อมูลไปถึงนายกรัฐมนตรีก็ต้องดำเนินการทันที ทั้งนี้เมื่อรัฐบาลทำงานครบปีแล้วก็ต้องมาแถลงชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าทำงานอย่างไปบ้าง.