ว่าด้วยประชาธิปไตยแบบไร้สติ

สื่อถูกควบคุมโดยรัฐทรราชทั้งสิ้น

ผมได้ติดตามอ่านข้อเขียนอันเร่าร้อนของ ดร.ธงชัย วินิจกุล มาหลายฉบับ ตั้งแต่มีการยึดอำนาจโดยคมช. เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน เนื้อหาใจความของคุณธงชัยนั้น เวียนวนอยู่ที่ ระบอบประชาธิปไตยอยู่ที่ประชาชน โดยมีประชาชนเป็นผู้ใช้สิทธิเลือกตัวแทนเข้าไปเป็นรัฐบาล เมื่อรัฐบาลกลายเป็นทรราช ประชาชนมีสิทธิที่จะต่อต้านโดยสันติวิธี ตามกระบวนการประชาธิปไตย และมุ่งโจมตีการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าหยาบช้าป่าเถื่อน

รัฐบาลทักษิณก็ให้สิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้เต็มที่(ดร. ธงชัยคงไม่รู้ว่ามีแต่สื่อASTVและหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเท่านั้นที่ลงข่าวการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน นอกนั้นถูกควบคุมโดยรัฐทรราชทั้งสิ้น) ซ้ำยังฟาดหัวฟาดหางไปยัง อ.เสน่ห์ จามริก,อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์,อ. ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และอีกหลายๆท่านที่แสดงท่าทีเหมือนกับเห็นด้วยกับการรัฐประหารครั้งนี้ ว่าเป็นพวกเชื่อโดยดุษฎี สยบยอมต่ออำนาจทหารที่ออกตัวมายึดอำนาจจากรัฐบาลโจรทักษิณ

เปิดโปงโกงกินมาทุกรัฐบาล

โดยที่ดร.ธงชัยซึ่งเคยมีบทบาทในเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ และปวดร้าวลึกกับอำนาจเผด็จการทหาร ผมเองได้ตื่นตัวทางการเมือง เพราะเหตุการณ์ ๖ ตุลาฯเช่นกัน และได้ร่วมเคลื่อนไหวกับภาคประชาชนต่อสู้เรียกร้อง-ปกป้องระบอบประชาธิปไตยในบ้านเมืองนี้มาตลอดระยะเวลา ๓๐ ปี ร่วมกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้าน ขับไล่ เปิดโปงรัฐบาลโกงกินมาทุกรัฐบาล อีกทั้งเข้าร่วมกับขบวนประชาชนผู้ด้อยโอกาส ที่ลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจรัฐ เพื่อปกป้องสิทธิ เอกราช อธิปไตย ความยุติธรรม และสิ่งแวดล้อมในหลายๆกรณีที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

ผมจึงขอแสดงความคิดเห็นในฐานะคนที่มีการศึกษาน้อย และเป็นสามัญชนคนหนึ่งที่มุ่งหวังสานสร้างสังคมดีงาม ผมเชื่อว่าคุณธงชัยเป็นผู้มีการศึกษาดี มีความรู้ปราดเปรื่องยิ่ง ก็มีจิตสำนึกรักชาติ รักประชาธิปไตยมากมาย และเป็นห่วงใยชาติบ้านเมือง แม้ว่าจะไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ในมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ประสบการณ์สอนผมให้เรียนรู้โครงสร้างการเมืองประชาธิปไตยด้อยพัฒนาแบบไทยๆ ที่ประชาชนถูกกระทำให้กลายเป็นเพียงแรงงานและตลาด ซึ่งมีสิทธิเพียงเป็นคะแนนเสียงเพื่อเลือกผู้แทนเข้าไปปล้นสะดมข่มขืนประชาธิปไตยมาโดยตลอด

ปัญญาชนขี้ขลาดตาขาว

คุณธงชัยเองก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ใช้สติปัญญาความรู้ของตนเขียนงานอธิบายประวัติศาสตร์ไทยได้อย่างแหลมคมลึกซึ้ง แต่ไม่เคยแสดงบทบาทเข้าร่วมคลุกคลีวงในอย่างจริงจัง เพียงแต่นั่งชกลมอยู่ห่างๆแบบที่เรียกว่าปัญญาชนขี้ขลาดตาขาว เฝ้าแต่เห่าหอนอยู่ข้างนอก อธิบายเป็นวักเป็นเวรหลังเกิดเหตุการณ์ประมาณว่าข้ารู้ทะลุปรุโปร่งอยู่คนเดียว น่าสมเพชแท้ปัญญาชนไทย ไม่เคยได้รับรู้รสชาติของความทุกข์ยากของมวลชนคนชั้นล่าง

โดยเฉพาะการประเมินว่าการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของสื่อผู้จัดการที่ขยายแนวร่วมกว้างใหญ่กลายเป็นพันธมิตรฯร่วมขับไล่รัฐทรราช-ระบอบทักษิณอย่างยืดเยื้อนั้น คุณธงชัยมองว่าประชาธิปไตยต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ประชาชน ๑๙ ล้านเสียงที่เลือกทักษิณมาเป็นนายก ทหารเอารถถังมายึดอำนาจไล่ตะเพิดโจรออกไปนั้นไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย

พลังประชาชนสามารถขับไล่ทรราชได้ด้วยสันติวิธี

ผมขอเรียนว่า บางทีการเรียนรู้มากนั้นก็ไร้ประโยชน์ หากว่าคุณไร้เดียงสาอ้างตำราบ้าบอคอแตกเอาแต่ความคิดของตน คือความถูกต้องไม่รู้กาลเทศะ ผมเองไม่ได้เรียกร้องให้เอาทหารมาปฏิวัติรัฐประหาร หรือเรียกร้องให้ใช้มาตรา ๗ ผมเชื่อว่าพลังประชาชนสามารถผลักดันขับไล่ทรราชให้ออกไปได้โดยสันติวิธี และผมเองก็พร้อมที่จะตาย หากวันที่ชุมนุมใหญ่ ๒๐ กันยาฯ เกิดความรุนแรงโดยรัฐทักษิณ แต่ดูเหมือนว่าคุณธงชัยได้จงใจละเลยหรือแกล้งหลงลืมไปว่า

โครงสร้างอำนาจของระบอบทักษิณนั้นได้แผ่ขยายกลไกรัฐทมิฬเข้าบดขยี้ทำลายระบอบประชาธิปไตยไทยให้พังพินาศไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ทำลายองค์กรประชาชนอย่างต่อเนื่องเป็นขั้นตอน รวมถึงการลอบสังหารผู้นำชุมชนไปกว่า ๒๐ คน ไม่นับการฆ่าตัดตอนศัตรูการเมืองที่เหมารวมไปไม่น้อยในสงครามปราบปรามยาเสพติดที่มีผู้เสียชีวิต-สูญหายไปกว่า ๓,๐๐๐ คน การแทรกแซงรวบซื้อองค์กรอิสระเช่น ศาลรัฐธรรมนูญ อัยการสูงสุด กกต. ทำให้กลายเป็นอัมพาต ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบการทุจริตอย่างมโหฬารของรัฐทักษิณ

สร้างความเสียหายให้กับแผ่นดินอย่างรุนแรง

ตั้ง DSIเพื่อเป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูการเมือง ใช้สรรพากรเป็นอาวุธคอยทำลายบุคคลที่ต่อต้านรัฐบาลโจรอย่างโหดเหี้ยม รวมถึงการรวบยึดสื่อ ข่มขู่แกมบังคับสื่อมวลชน ให้ปกปิดบิดเบือนมอมเมาประชาชนให้หลงใหลได้ปลื้มกับนโยบายประชานิยมเล่นเกมการเมืองสกปรกสร้างข่าวเท็จกลบข่าวความชั่วร้ายของรัฐโจร ย้ายรัฐมนตรีทุจริตหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง ตั้งตนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียว ดำเนินนโยบายปล้น-ขายชาติ (เซ็นสัญญาFTAโดยคนๆเดียวคือนายก ไม่ต้องผ่านสภา)

หาประโยชน์โภชน์ผลมาแบ่งกันกับบรรดาพวกพ้องและญาติพี่น้องลูกเมียได้ตามอำเภอใจ ซ้ำยังวางแผนเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อโกงกินให้เต็มคราบ สร้างความเสียหายให้แผ่นดินอย่างรุนแรง ความฉลาดเลือกใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะอดีตฝ่ายซ้ายจิ้งจกกลุ่มหนึ่งเข้ามารับใช้อำนาจชั่วร้ายโดยใช้เงินฟาดหัวให้กลายเป็นหมารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ กระทำการกดขี่ข่มเหงมอมเมาประชาชนให้กลายเป็นสังคมขอทาน รอแบมือขอเศษเงินจากผู้ปกครองทรราช เอาเงินคนจนช่วยคนจน จากโครงการหวยบนดิน แล้วรัฐโจรก็ร่วมโกงกินจากอภิมหาโปรเจ็กค์

หลงผิดคิดว่าคนรวยแล้วไม่โกง

จริงอยู่ การได้มาซึ่งอำนาจของทักษิณนั้น มีปัญญาชนอาวุโสจำนวนไม่น้อยเคลื่อนไหวสนับสนุนปกป้องกรณีซุกหุ้นครั้งแรก(๒๕๔๔) เพราะหลงผิดคิดไปว่าคนรวยแล้วไม่โกง ให้โอกาสเลือดใหม่เข้ามาบริหารบ้านเมืองบ้าง เนื่องจากหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ การเมืองไทยล้มลุกคลุกคลานอำนาจรัฐกลายเป็นสมบัติผลัดกันชมของฝูงนักโกงเมืองไม่กี่ตัวจริงๆ ตอนแรกทักษิณสัญญาว่าจะไม่เอาพวกยี้มาร่วมรัฐบาล แต่ไม่นานลายก็ออก เอา สมศักดิ์ เนวิน เข้ามาร่วมโจรกรรมย่ำยีประชาชนเหมือนเดิม การเมืองไทยที่มีการแบ่งเป็นก๊ก เป็นก๊วน เพื่อต่อรองเอาเก้าอี้รัฐมนตรีเข้าไปปล้นหาแดกจนแหลกลาญก็ได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องรุนแรงยิ่งขึ้น เพราะไม่มีฝ่ายค้าน

ขณะที่สื่อมวลชนไทยก็ไร้จุดยืน ไม่มีจรรยาบรรณ ทำงานตามใบสั่งผู้ลงโฆษณา เอาตัวรอดไปวันๆ ระบบเงินนิยมบริโภคเข้ามาครอบงำโพรงสมองของปัญญาชนไทยจนปัญญาอ่อนสิ้น โดยเฉพาะวิทยุและโทรทัศน์ที่เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐโจร มุ่งมอมเมาล้างลมองล้วงกระเป๋ามวลชนให้ไร้สติ เด็กและเยาวชนบ้าเซ็กส์ บ้ามือถือ ติดเกมส์คอมพิวเตอร์ ยาเสพติด มีปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นมากทบทวีคูณ และที่เลวร้ายที่สุด คือทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐตำรวจ ใช้อำนาจกวาดล้างศัตรูการเมืองจนราบคาบ โดยขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว รื้อระบบราชการไม่ใช่เพื่อรับใช้ประชาชน แต่เพื่อสนองตอบความโลภบ้าของนายก ในนามของผู้ว่าฯCEOที่สนองอำนาจของผู้นำเท่านั้น ข้าราชการที่แต่เดิมก็ขี้เกียจหลังยาว โกงกินตามน้ำ วางตัวเป็ยนายเหยียบหัวประชาชนกินเงินเดือนจากภาษีราษฎรก็ย่ำแย่ยิ่งกว่าเก่า เพราะต้องทำงานเพื่อนายกฯด้วยจิตใจหวาดหวั่น กลัวถูกสั่งย้ายกลางอากาศ ถ้าไม่รับใช้ระบอบทักษิณ หลายคนต้องเป็นบ้าฆ่าตัวตายไป

ฝูงโจรวนเวียนปล้นข่มขืนประเทศ

ดูเหมือนว่าคนชั้นกลางส่วนน้อยกระมังที่พอเข้าใจเรื่องสิทธิหน้าที่พลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย สำหรับประชาชนคนส่วนใหญ่นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะสิทธิของประชาชนมีเพียงอย่างเดียวคือไปเลือกตั้ง ทั้งๆที่ไม่มีคนดีพอที่ตนเองจะเลือก เนื่องจากบรรดานักการเมืองไทยในทุกระดับตั้งแต่หมู่บ้านจนถึงรัฐสภานั้น ล้วนมีเบื้องหลังที่มาจากความโฉดฉลแทบทั้งสิ้น อุดมการณ์ทางการเมือง จิตสำนึกรักชาติรับใช้ประชาชนไม่เคยมี ซ้ำโครงสร้างหัวคะแนนที่วางไว้อย่างแนบแน่นกับขนบอำนาจนิยมแบบไทยๆ ยังทำงานรับใช้นักการเมืองโจรได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง การซื้อสิทธิขายเสียงจากการสัญญาว่าจะให้ โฉนด,วัวล้านตัว,เงินล้าน,กองทุนยืมเรียน ทำให้ประชาชนรากหญ้าซึ่งจนตรอกไร้หนทางหลงใหลได้ปลื้มกับรัฐบาลเทวดาโจรไปโดยปริยาย

แล้วการที่คุณธงชัย และชมรมคนเสื้อดำออกมาเคลื่อนไหวให้ยกเลิกกฎอัยการศึก(ทั้งๆที่ยังไม่มีการชำระล้างความเน่าเฟะของการเมืองไทย)และให้รีบคืนอำนาจให้ประชาชนจัดเลือกตั้งโดยเร็วนั้นมีความหมายอย่างไร คุณจะอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างไร เมื่อปัญหาของบ้านเมืองเราคือความโฉดฉลของนักการเมืองบวกกับความไม่รู้ของประชาชนที่ถูกกระทำให้มองเห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องของผู้ปกครองที่มีอำนาจวาสนาเท่านั้น ทั้งๆที่อำนาจที่แท้จริงนั้นคือเราทุกคน-ประชาชน รัฐจะมีความหมายอะไรหากประชาชนต้องเลือก ฝูงโจรกลับเข้ามาเวียนวนปล้นข่มขืนประเทศต่อไปเช่นนี้ (แม้ว่าคมช.และรัฐบาลชั่วคราวชุดนี้ เราไม่ได้เลือก แต่ภารกิจของเขาก็คือเข้ามาจัดการปัญหาหลักๆของแผ่นดิน หากเขามั่วมัวเมาบ้าอำนาจทำระยำตำบอน ผมเองก็ต้องลงมือถล่มโค่นล้มมันอย่างแน่นอน)

เหลวไหลเพ้อเจ้อ ประชาธิปไตยแบบไร้สติ

ประชาธิปไตยแบบไร้สติที่ ดร.ธงชัยและกลุ่มเสื้อดำร้องแรกแหกกระเชอนั้น มันดำดงอยู่ในเมฆก้อนไหน ช่างเหลวไหลเพ้อเจ้อสิ้นดี!พอกันทีประชาธิปไตยแบบไร้สติ ที่มีอยู่แต่ในหนังสือ ซึ่งมันก็คือปีศาจทุนคลั่ง( Demon-crazy)ที่กำลังแพร่ระบาดไปขูดรีดกดขี่ข่มเหงคนทั่วโลก ซึ่งมีอเมริกาเป็นหัวโจกกำลังเร่งสร้างระบอบเสรีประชาธิปไตยด้วยลูกระเบิดในประเทศอิรัก คุณธงชัย คงร่วมเดินขบวนประท้วงต่อต้านสงครามอิรักด้วยกระมัง เมื่อคนทั้งโลกกว่า ๒๐ ล้านคนประท้วงต่อต้านสงครามปล้นน้ำมันของมหาอำนาจ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ ทำให้ทั้งโลกต้องกลายเป็นสนามรบของการก่อการร้าย แล้วเราจะจัดการอะไรกับมันได้ เสรีภาพในการประท้วงในประเทศพัฒนาแล้ว ที่เดินขบวนอย่างถูกกฎหมาย วันละ ๓-๔ ชั่วโมง แล้วกลับไปบ้านนอนหลับดื่มไวน์ฉลองการเคลื่อนไหวแบบในอเมริกา-ยุโรปที่คนชั้นกลาง-ปัญญาชนร่วมใจกันเท่านั้นเพียงพอแล้วหรือ

ขบวนการซาปาติสต้า-นายพลชาเวสของเวเนซูเอลา คือหนทางออกใหม่หรือเปล่า หรือว่าขบวนการ Anarchy แบบ Black Block พลีชีพที่มุ่งถล่มการประชุมการค้าโลกหยุดยั้งเสรีนิยมใหม่ล้างโลกของมหาอำนาจเล่า ที่เราจะเลือกเอาวิธีการต่อสู้มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาที่เป็นจริงของแต่ละท้องถิ่น ทำอย่างไร เราจะยกเลิกโครงสร้างการเมือง-อำนาจทุนผูกขาดข้ามชาติ-ทหารที่ครอบงำทั้งโลกอยู่ทุกวันนี้ได้ คุณธงชัยช่วยอธิบายที

บ้านเมืองถูกชำเราจากระบอบทักษิณ

อนึ่งเผด็จการนั้นมีสองแบบ กล่าวคือ เผด็จการใดที่มุ่งกำจัดคนชั่วคนโกงจริงจัง ให้สิทธิเสรีภาพ สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม อภิบาลคนดีและส่งเสริมสุจริตชน นั้นคือเผด็จการดี หากเผด็จการใดมุ่งกดขี่ข่มเหงคนดี อภิบาลคนชั่วปล้นชาติ-ขายแผ่นดิน สร้างความแตกแยก ปิดหูปิดตาประชาชน สร้างแต่ความทุกข์ยากเดือดร้อนให้แผ่นดิน มันคือผู้ก่อการร้าย คือศัตรูของประชาชนที่เราต้องร่วมขบวนกันโค่นล้มขับไล่มันไปให้พ้นแผ่นดิน

แน่นอนผมไม่เห็นด้วยกับวิธีการรัฐประหาร (แต่ถ้ารัฐทักษิณฆ่าประชาชน แล้วทหารร่วมมือกับประชาชนใช้อาวุธเข้าถล่มอำนาจช่วงชิงอำนาจรัฐโดยประชาชนนั้น ย่อมเป็นการปฏิวัติที่สวยงามกว่า) แต่ความชั่วร้ายของระบอบทักษิณที่มุ่งทำลาย อดีต-ปัจจุบัน และอนาคตของบ้านเมืองนี้เป็นสิ่งที่ผมยอมไม่ได้ และประชาชนทั้งหลายที่ตื่นรู้ออกมาเดินขบวนชุมนุมขับไล่รัฐทรราชนั้น คุณก็คงทราบดี แต่คุณไม่เคยแสดงท่าทีสนับสนุนหรือเข้าร่วมด้วย ในเหตุผลอะไรก็ตาม แต่คุณธงชัยเลือดเย็นที่ได้แต่นั่งมองดูความฉิบหายของบ้านเมืองที่ถูกกระทำชำเราจากระบอบทักษิณ(เพราะมาตรา๗หรือไม่ชอบหน้าใครเป็นการส่วนตัวก็แล้วแต่)

หรือต้องรอให้เกิดสงครามกลางเมือง

ผมเองไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนทักษิณมาตั้งแต่ต้นกรณีซุกหุ้น เพราะผมมีความเชื่อว่าพ่อค้า งก โลภไม่สมควรมีอำนาจปกครองบ้านเมือง ยังเขียนบทกวีด่าบรรดาคนที่สนับสนุนทักษิณในช่วงนั้นด้วย และการที่ผมเข้ามาร่วมกับพันธมิตร ก็เพราะเชื่อว่าประชาชนมีสิทธิเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐทรราช หากกลไกรัฐสภาปกติเป็นอัมพาต ผมยังถูกเสียดเย้ยจากมิตรสหายว่างี่เง่าที่เข้าไปร่วมกับคุณสนธิตั้งแต่ถูกถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์จากช่อง ๙ อสมท. แต่ผมยืนยันว่า หน้าที่พลเมืองดีคือ ลงมือลงแรงขับไล่โจรทุกตัวที่เข้ามาทึ้งทำลายบ้านเมือง ผมมองไม่เห็นทางออกเลยว่า ทักษิณและลิ่วล้อจะยอมออกไปโดยดุษฎี เพราะโครงสร้างอำนาจและทรัพย์สินของเขามีล้นฟ้า ซ้ำยังใช้ตำรวจร่วมกับอันธพาลมากระทืบประชาชนอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน มีแนวโน้มนองเลือดใหญ่แน่นอน

คุณธงชัย ครับ คุณจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร ในฐานะที่คุณเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และการปฏิรูปการเมือง โดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง(ที่ทักษิณ พยายามรวบรัดเมื่อ ๒ เมษาฯ เกิด ปรากฏการณ์ No vote และฉีกบัตรอันน่าอัศจรรย์ยิ่ง) ที่มีแต่ฝูงโจรทั้งนั้น และเนติบริกรศรีธนญชัยเข้ามามีอำนาจกลั่นกรองกฎหมาย เพื่อกำราบตัวเอง มันจะเป็นไปได้อย่างไร คุณก็คงรู้ว่าเลือกตั้ง ๒ เมษาฯเป็นอย่างไร พลัง No vote กว่า ๑๐ ล้านคน ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนเล่า หรือเราต้องการให้เกิดสงครามกลางเมืองก่อน ผมคนหนึ่งไม่ได้เรียกร้องมาตรา ๗ และไม่ได้เรียกร้องให้ทหารทำรัฐประหาร แต่เราจะจัดการกับรัฐทรราชทักษิณได้อย่างไร เราจะขุดรากถอนโคนนักการเมืองขี้โกงทั้งระบบนี้ได้อย่างไร แน่นอนบทเรียนในอดีตสอนให้เรารู้ว่าอำนาจนั้นชั่วร้ายเสมอเมื่ออยู่ในมือทหาร เราไม่มีทางไว้วางใจใครได้ และไม่มีใครทำแทนประชาชนได้เลย เพราะเขาไม่เคยรู้จักความทุกข์ยากของประชาชน จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ทหารผู้ยึดอำนาจครั้งนี้ จะมีความตั้งใจปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจัง สร้างสังคมให้ร่มเย็นเป็นสุข-ยุติธรรม ไม่ติดยึดหลงไหลอำนาจก่อความชั่วร้ายซ้ำซากสร้างบาดแผลให้กับแผ่นดินนี้อีก

อย่าให้รัฐสภาต้องกลายเป็นซ่องโจร

ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะมีส่วนร่วมในการขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ คุมกำเนิดนักการเมืองโจรที่มีอยู่ดาษดื่นไม่ให้พวกมันหวนกลับมามีอำนาจปกครองบ้านเมืองเราได้อย่างไร เราจะปฏิรูปการศึกษาสร้างจิตสำนึกใหม่ทางการเมืองให้เยาวชน และให้การศึกษาชุมชนโดยใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือให้ความรู้ทางการเมืองภาคประชาชน เพื่อเป็นรากฐานระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปฏิรูปสื่อมวลชนให้เป็นหูเป็นตาเป็นปากเป็นเสียงของประชาชนผู้ถูกกดขี่เอารัดเอาเปรียบ ให้ตระหนักรู้ถึงสิทธิหน้าที่ของตนโดยทั่วถึงและเท่าเทียมได้อย่างไร จะดำเนินการปฏิวัติศิลปวัฒนธรรมให้ประชาชนมีจิตสำนึกรักชาติ รับผิดชอบต่อส่วนรวม

ภาคภูมิใจในความเป็นเอกราชได้อย่างไร เราจะปฏิรูปเศรษฐกิจให้พ้นจากแอกทุนผูกขาดข้ามชาติโดยทุนนิยมเสรีโลภล้างโลกได้อย่างไร นี่คือประเด็นที่เราต้องมาใคร่ครวญ ทุบตี ร่วมมือร่วมใจกันสร้างสรรค์ให้มันเกิดขึ้นจริง ไม่นิ่งดูดาย ให้เวลาเขาสักพัก หากเราเห็นแจ่มชัดว่า คมช.และรัฐบาลชั่วคราวดำเนินการไม่เข้าท่า ต้องการสืบทอดอำนาจชั่วช้า เราก็ต้องมารวมพลังกันถล่มโค่นล้มมันออกไปอีกเช่นเคย แม้ต้องเสียเลือดเนื้ออีกสักครั้งก็ตาม ผมเองก็รู้ดีว่ามีชีวิตอยู่ในประเทศนี้มีความรู้สึกแบบว่าขี้ไม่สุดตลอดเวลา ตราบใดที่ยังมีเรี่ยวแรงและลมหายใจ เราก็ยังยืนหยัดต่อสู้เพื่อสังคมที่ดีกว่าต่อไปมิใช่หรือ

สุดท้าย โดยส่วนตัวผมอยากให้มีคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัตินักการเมืองทุกระดับตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัดอำเภอ นายอำเภอ อบต. สจ. สส. สว. รมต. นายกฯ ก่อนที่จะเสนอหน้าเข้ามามีอำนาจ โดยทำบัญชีดำไว้เพื่อกำจัดสิทธิพวกคนชั่วคนโกง เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐสภาต้องกลายเป็นซ่องโจรเหมือนดังเป็นมา โดยความเคารพ-สวัสดี

วสันต์ สิทธิเขตต์
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๙

หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ