ปชป.จวก “เหลิม” คิดแก้ระบบศาลไทย เพราะไม่สนองตัณหาทางการเมืองตัวเอง
วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพร้อมคู่ความคดีเงินบริจาคจากบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด 258 ล้านบาท ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ว่า ทางพรรคเห็นว่ากระบวนการเคลื่อนไหวกดดันศาลตลอด เห็นได้จากพรรคเพื่อไทยเสนอถอดถอนกกต.และตุลาการ เป็นลักษณะเล่นไม่เลิก แม้สินสุดคำวินิจฉัยกรณี 29 ล้านบาท และพรรควิตกต่อข้อเสนอร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้เปลี่ยนระบบศาลในประเทศไทย จากศาลคู่เป็นศาลเดี่ยว ซึ่งหากทำตามข้อเสนอ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่ และจะกระทบต่อสถาบันตุลการอย่างชัดเจน
หากต้องการเสนอเพื่อรักษาความถูกต้องยุติธรรมก็สามารถทำได้ด้วยการแก้ไขบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ
แต่ที่มีการเสนอมาเพราะไม่ถูกใจ ในฐานะเป็นผู้ร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสนองตัณหาทางการเมืองตัวเอง โดยใข้ฝ่ายนิติบัญญัติแทรกแซง ซึ่งเป็นระบบคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น ตนอยากถามว่า หากคำวินิจฉัยเป็นอย่างอื่นพรรคเพื่อไทยจะเสนอเแบบนี้หรือไม่ และที่ผ่านมามีขบวนการแบล็กเมล์ ข่มขู คุกคามศาลมาตลอด ซึ่งคนเหล่านี้เคยออกมาตำหนิหรือไม่ ดังนั้น ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวกดดันทำลายความน่าเชื่อถือตุลาการ และทราบว่ายังมีนักวิชาการที่ทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันกับกลุ่มคนเสื้อแดงต้องการดิสเครดิตศาล ด้วยการเขียนบทความวิชาการ ดังนั้น อยากให้เสนอแนวทางที่สร้างสรรค์มากกว่าจ้องทำลาย.