"สดศรี"ระบุเป็นไปได้ศาลรธน. งดสืบพยานคดียุบปชป. 258ล้าน เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับมุมมองและการตีความกฎหมาย
"ยืนยันว่ากกต.ได้ทำทุกอย่างตามมาตรฐานกฎหมาย โดยไม่มีอคติต่อพรรคการเมืองใดและศาล แต่ที่กกต. ต้องออกมาชี้แจง เพราะต้องให้คำตอบแก่สังคมว่าที่กกต.ทำอย่างนั้น เพราะอะไร ส่วนผลของคดีจะเป็นอย่างไร ไม่สามารถให้ความเห็นได้" นางสดศรี กล่าว
รายงานข่าวจากกกต.แจ้งว่า มีการคาดการณ์ถึงวันที่ 9 ธันวาคมนี้
กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพร้อมคู่กรณีในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากข้อกล่าวหารับเงินบริจาค 258 ล้านบาท ภายหลังที่ศาลนัดพร้อมแล้วมีความเป็นไปหลังจากนั้นศาลอาจนัดฟังคำวินิจฉัยและยกคำร้องในคดีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่านายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เคยมีความเห็นให้ยกคำร้องไม่ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.)ดำเนินการส่งคำร้องเพื่อยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายอภิชาตเคยมีความเห็นให้ยกคำร้องในข้อกล่าวหาดังกล่าวถึง 2 ครั้งทั้งในวันที่ 17 ธันวาคม 2552 และวันที่ 12 เมษายน 2553
แหล่งข่าวจากกกต.เปิดเผยด้วยว่าในการหารือของกกต.นอกรอบภายหลังการประชุมกกต.ปกติของวันเดียวกันนี้ ( 2 ธันวาคม)
ซึ่งเป็นการหารือของกกต.คนหนึ่งกับนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 2 ให้ยกคำร้องในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งมติเสียงข้างมากของศาลมี 3 ใน 4 เสียงเห็นว่านายทะเบียนพรรคการเมืองยังไม่ทำความเห็น จึงถือว่าผิดขั้นตอนในการส่งคำร้องมายังศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงถือเป็นการเปิดช่องในการให้นายทะเบียนพรรคการเมืองส่งความเห็น
โดยกกต.คนดังกล่าวเห็นว่าเมื่อกระบวนการยังไม่สมบูรณ์ก็ควรทำให้กระบวนการได้สมบูรณ์ขึ้นมาเพื่อจะได้มีการพิสูจน์ในข้อเท็จจริงของคดีเงินกองทุนฯ 29 ล้านบาทอีกครั้ง ส่วนจะถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่เรื่องนี้เห็นว่าควรให้ศาลได้มีการวินิจฉัยในเรื่องนี้ เพื่อให้มีการวางบรรทัดฐานจากศาลรัฐธรรมนูญ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการหารือของกกต.คนดังกล่าวกับนายอภิชาต ถึงข้อเสนอให้นายอภิชาตลงความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองเพื่อจะได้ขอมติที่ประชุมกกต.ในการส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งนั้น แต่นายอภิชาตยังออกอาการแบ่งรับแบ่งสู้อยู่แต่ไม่ได้มีความเห็นออกมาว่าจะส่งคำร้องดังกล่าวซ้ำอีกครั้งหรือไม่และระบุต่อกกต.คนนั้นเพียงว่า " ผมขอให้รอคำวินิจฉัยกลางอย่างเป็นทางการจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน" ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่านายอภิชาตคงไม่น่าจะทำความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองในการส่งคำร้องคดีเงิน 29 ล้านบาทไปศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
