พม.จับมือ “UNDP” เปิดเวทีถกสัดส่วนหญิง-ชายสู่เวทีการเมือง แฉไทยมีนักการเมืองหญิงแค่ร้อยละ 11 ด้าน “องอาจ” รับภาพลักษณ์นักการเมืองติดลบ ทำหญิงไม่อยากเป็นผู้แทน
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ประตูน้ำ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมระดับชาติเรื่อง “การกำหนดสัดส่วนหญิงชายในการเลือกตั้งของประเทศไทย” ซึ่งจัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)
โดย นายองอาจ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงมีศักยภาพและความสามารถไม่ต่างจากผู้ชาย และได้เข้ามามีบทบาทในงานด้านต่าง ๆ มากขึ้น ทั้งงานด้านสังคมและการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ในวงการการเมืองสัดส่วนของผู้หญิงที่เข้ามาถือว่าน้อย ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น แม้ว่าหลายหน่วยงานพยายามรณรงค์ก็ตาม เชื่อว่าอุปสรรคสำคัญส่วนหนึ่งมาจากค่านิยมและทัศนคติของสังคม ที่มองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ งานการเมืองการปกครองเป็นงานของผู้ชาย สังคมมักมองว่าผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาทำงานการเมือง เพราะเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นภรรยา ลูกหรือญาติพี่น้อง
“ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ของนักการเมืองถูกเหมารวมว่าเป็นภาพลบและทุจริต ทำให้ผู้หญิงไม่อยากเข้ามาเล่นการเมืองและยังไม่รวมอีกหลายเรื่องที่อาจถูกวิจารณ์ในแง่ลบได้มากว่าผู้ชาย ดังนั้นทุกภาคส่วนของสังคม รวมทั้งรัฐบาลจะต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจและปรับทัศนคติของสังคม เพื่อให้มีสัดส่วนของผู้หญิงเข้ามาในเวทีการเมืองมากขึ้น” นายองอาจ กล่าว
ด้าน นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด พม. กล่าวว่า จากสถิติตัวเลขในประเทศไทยมีผู้หญิงใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งมากกว่าผู้ชาย แต่กลับพบว่าเมื่อถึงระดับผู้แทน ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น ผู้หญิงยังเข้ามาเพียงร้อยละ 11-12 เท่านั้น ทั้งการเป็น ส.ส. ส.ว. และสมาชิกท้องถิ่น ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ มีผู้หญิงเข้าไปสู่การเมืองถึงร้อยละ 15-27 ส่วนประเทศพัฒนาแล้วร้อยละ 35 ขึ้นไป ซึ่งประเทศเหล่านี้ ประชาชนทุกกลุ่มล้วนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ฉะนั้นจึงควรสนับสนุนให้ผู้หญิงได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง โดยส่งเสริมผู้หญิงให้เป็นผู้แทนของประชาชนมากขึ้น.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
