วันนี้ (30พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า ได้กำชับ ครม.ให้ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชนและช่วยรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ซึ่งมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจ จึงต้องเผยแพร่เหตุผลของศาลฯให้ชัดเจน
นอกจากนี้ยังได้ย้ำกับ ครม.ให้ช่วยกันอย่าสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ขอให้ระมัดระวังการพูดหรือการให้สัมภาษณ์อย่าให้ไปกระทบกระทั่งกับกลุ่มต่างๆ เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ดี ขณะที่เราต้องการให้บรรยากาศของบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวจะเป็นการเรียกแขก ทำให้มีคนมาชุมนุมมากขึ้นในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ หรือไม่นั้น ต้องใช้คำว่าเรียกแขกโดยไม่ออกบัตรเชิญ ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯเข้าใจและชี้แจงว่าเป็นการตอบโต้ เพราะถูกโจมตี ซึ่งตนได้บอกไปว่าเราต้องอดทน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้น กรอบแนวคิดของรัฐบาลยังคงเหมือนเดิมคือการใช้สิทธิทางการเมืองที่มีกฎหมายและรัฐธรรมนูญรองรับจะต้องใช้ได้ แต่ต้องช่วยกันบริหารจัดการทุกอย่างให้ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนประเด็นที่มีการชุมนุมเรียกร้องมานั้น ยืนยันจะรับฟังในประเด็นต่างๆ ซึ่งเรื่องใดมีเหตุผล เราก็รับมาดูว่าจะทำอะไรบ้าง แต่อะไรที่เขาไม่เห็นด้วย เราจะพยายามชี้แจงเหตุผล
เมื่อถามถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 11 ธ.ค. เพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นห่วงประเด็นหนังสือสัญญาและกรอบการเจรจาจะต้องผ่านรัฐสภาและรับฟังความคิดเห็นหรือไม่ ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะยังไม่เคยเห็นใครโต้แย้งในสภาฯ ในการที่จะแปรญัตติให้เป็นเช่นนั้น เพราะมันไม่ใช่เจตนาตั้งแต่ต้นที่จะไปออกกฎหมายลูก และจะเห็นว่าตัวกฎหมายลูกออกได้เฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ไม่สามารถออกมาเรื่องของเขตแดนได้ เมื่อคณะกรรมาธิการเริ่มดำเนินการเมื่อไรก็จะมีความชัดเจน
ต่อข้อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการชายแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องเจบีซีฯนั้น ตนก็ยังไม่ทราบว่าคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาบันทึกผลการประชุมเจบีซีฯ ได้พิจารณากันไปถึงไหน อย่างไร แต่ตนย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ได้นำไปสู่ผลใดทั้งสิ้น เพราะไม่ได้นำข้อตกลงหรือข้อสรุปใด มาให้รัฐสภารับรอง แต่เป็นเพียงการรายงานบันทึกการประชุมเพื่อให้กลไกต่างๆเดินต่อได้