พรรคประชาธิปัตย์ปัดคิดแผนสำรองถ้าถูกยุบ ยันไม่เคยได้ยิน “กลุ่มไทยสามัคคี”
วันนี้ 28 พฤศจิกายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุพรรคประชาธิปัตย์เตรียมตั้งกลุ่มไทยสามัคคี หากพรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบว่า ขอตอบแทนคนในพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนว่า ยังไม่เคยได้ยืนชื่อไทยสามัคคีเลย เรื่องนี้พรรค พท.พยายามเชื่อมโยงให้เห็นว่า เป็นกระบวนการตั้งพรรคใหม่ของประชาธิปัตย์ จึงยืนยันว่าเรายังไม่เคยเตรียมการใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับอนาคตพรรค ตนในฐานะเป็นกรรมการบริหารพรรคยังรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหว เพราะเชื่อมั่นในทีมกฎหมายพรรค ทุกอย่างเป็นเรื่องอนาคต ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์โชคร้ายถูกตัดสินให้ยุบพรรค ส.ส.ที่สังกัดพรรคก็ต้องไปหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 60 วันตามกฎหมาย ถ้าพรรคไม่ยุบเราก็เดินหน้าทำงานการเมืองต่อไปอย่างมั่นคง วันนี้ทุกคนยังหนักแน่นและพร้อมรับคำตัดสินของศาลด้วยความเคารพ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าศาลจะอ่านคำพิพาษาในวันเดียวกันเลยหรือไม่ แต่ถ้าอ่านเลยในช่วงบ่ายประชาธิปัตย์ก็พร้อม หรือจะเลื่อนไปก็พร้อม เพราะทีมกฎหมายทำงานพร้อมหมดแล้ว
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีคลิปวีดีโอของนายพสิษฐ์ ศักดานรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญล่าสุด ว่า คลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า มีกระบวนการไว้แต่ต้นและตรงกับที่เราคาดการณ์ไว้ว่า จะมีออกมาเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการตัดสินคดี และเนื้อหาคลิปดังกล่าวก็ไร้สาระ พูดถึงแต่ความไม่เป็นธรรมในการตัดสิน เป็นเนื้อหาที่มุ่งดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ ชัดเจนว่าเป็นการเตีรยมการ โดยมีจุดมุ่งหมายทำลายความน่าเชื่อถือของตุลาการรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังผลกระทบต่อการพิจาณณาคดีของตุลาการรัฐธรรมนูญให้ได้ และที่ตุลาการรัฐธรรมนูญยื่นฟ้องหมิ่นประมาท ต่อนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายพสิษฐ์นั้น น่าจะเป็นคำตอบชัดเจนว่า กระบวนการนี้เป็นมาอย่างไร
เมื่อถามว่า ห่วงจะมีการชุมนุม เพื่อกดดันการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ในส่วนของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์น้อมรับคำตัดสิน จึงฝากไปยังพรรคอื่นที่ต้องการเห็นประชาธิปัตย์ถูกยุบ ก็ต้องเคารพคำตัดสินของศาลด้วย เพราะถ้าไม่เคารพ บ้านมเองก็อยู่ไม่ได้ และเป็นเรื่องผู้รักษากฎหมายบ้านเมืองที่ต้องรักษากฎหมายอย่างแท้จริง
ส่วนหากศาลยุบพรรคประชาธิปัตย์แล้วจะมีกรรมการบริหารพรรคที่เป็นรัฐมนตรีต้องพ้นตำแหน่งกี่คนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ยังไม่ได้นับ แต่ดูคร่าวๆประมาณเกือบ 10 คน แต่ยังไม่ได้เตรียมการอะไร เพราะยังไม่เห็นผล จึงยังไม่ตื่นตูมเตรียมโน่นนี่ แต่คนที่ออกมาบอกจะเป็นอยางนั้นอย่างนี้ เป็นการเต้าข่าวเพื่อหวังผลมากกว่า เพราะในส่วนประชาธิปัตย์ไม่มีใครแพร่งพรายแนวทางหรือผลของคดีแม้แต่น้อย
ด้าน นายอรรถวิช สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในวันนี้ยอมรับว่า กระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของตุลาการรัฐธรรมนูญได้สำเร็จลงแล้ว เพราะส่งผลให้ตุลาการรัฐธรรมนูญหายไปถึง 3 คน ซึ่งล้วนเป็นผลมาจากการดำเนินงานของพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น โดยผู้ที่ถอนตัวไปแล้ว 3 คน ได้แก่ นายจรูญ อินทจาร ที่ถอนตัวไปเพราะมีคู่ความและพาดพิงกับพรรคเพื่อไทยชัดเจน ขณะที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ที่ถอนตัวไป ได้มีคดีฟ้องร้องกับนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในคดีหมื่นประมาท ส่วนนายเฉลิมพล เอกอุรุ ก็ถูกพาดพิงจากคนในพรรคเพื่อไทยว่ามีนามสกุลเดียวกับส.ส.ประชาธิปัตย์ ดังนั้นที่ทั้ง 3 คน จากตุลาการรัฐธรรมนูญทั้งหมด 9 คนต้องออกไป เป็นเพราะแรงกดดันจากพรรคเพือไทยล้วนๆ วันนี้กระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของตุลการรัฐธรรมนูญสำเร็จแล้ว ทำให้เหลือตุลการรัฐธรรมนูญเพียง 6 คนเท่านั้น ที่จะพิจารณาคดีในวันที่ 29 พฤศจิกายน แต่ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร สมาชิกพรรคจำนวน 2.8 ล้านคนให้ความเคารพ
“ในฐานะเป็นผู้ช่วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยืนยันว่าในพรรคยังไม่มีการพูดถึงตัวสำรองต่างๆ ทั้งหัวหน้าพรรคหรือนายกฯแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงการพิจารณาคดีที่จะเกิดขึ้น เพราะกระบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของตุลาการได้เสร็จแล้ว แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” นายอรรถวิช กล่าว.