คมชัดลึก :ที่ประชุมหวิดล่มหลัง“เทพไท”อภิปรายซัดรธน.คปพร.เป็นฉบับเหวงๆ เข้าทางพท.เสนอนับองค์ประชุม ”ประสพสุข”ชิงพักประชุม 10 นาที สุดท้ายยื้อไม่ได้ “หมอวรงค์”แก้เกี้ยวเสนอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ
โดยนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนเห็นด้วยและภาวนาอยากให้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของรัฐบาลมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 เรื่องยุบพรรค เพราะมองภาพรวมแล้วไม่เป็นประชาธิปไตย ทำลายเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ซึ่งหากแก้ไขเชื่อว่าสังคมจะได้ประโยชน์แน่นอน รัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้มีแต่ทำให้พรรคการเมืองไม่เข้มแข็ง
นายนุรักษ์ นิยมเวช ส.ว. สรรหา อภิปรายว่า การเสนอ 3 ร่างไม่ใช่การสร้างความปรองดองทางการเมือง ถ้าอยากปรองดองจริงควรมีตั้งส.ส.ร.ขึ้นมา เพื่อมาจากหลายภาคส่วน แล้วอยากถามว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ดีอย่างไรจึงต้องมาแก้ไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นอภิปราย
ปรากฎว่าระหว่างการอภิปรายนายเทพไทได้พูดถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนว่าเป็นฉบับเหวงๆ ซึ่งทำให้ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงและขอให้ถอนคำพูด หลังจากนั้นระหว่างที่นายเทพไทยอภิปรายกล่าวหาว่า สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสภาทาส ซึ่งการอภิปรายของนายเทพไท ล้วนเป็นคำพูดที่ดุดันจนทำให้มีการประท้วงกันหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งต่อมาเมื่อ ร.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปราย ก็ยังคงมีการพูดจาพาดพิงและเกิดการตอบโต้กันระหว่าง ส.ส.พรรคประชาธิปัย์และพรรคเพื่อไทย สุดท้ายนายไพโรจน์ อิสระเสนีพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้เสนอขอให้นับองค์ประชุม โดยระบุว่า หากเสนอนับองค์ประชุมตอนนี้องค์ประชุมไม่ครบแน่ จึงขอเสนอให้นับองค์ประชุมทำให้นายประสพสุข บุญเดช รองประธานรัฐสภาเสนอให้มีการพักประชุมเป็นเวลา 10 นาที
อย่างไรก็ตามภายหลังจากพักการประชุมปรากฎว่านายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทน โดยนายชัย ได้ขอร้องให้นายไพโรจน์ถอนการเสอนนับองค์ประชุมเพื่อให้การประชุมเดินต่อไปได้ และขอให้นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาลและนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านไปหารือกัน
เทพไท”ซัดรธน.คปพร.ฉบับเหวงๆ
โดยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภา
เมื่อวันแรกในพิจารณร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนายกฯ ประธานในที่ประชุมได้มีการเชิญตัวนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แล้วจะมาขอให้นายไพโรจน์ถอนการนับองค์ประชุมได้อย่างไร ปัญหาปั่นป่วนที่เกิดขึ้นนายกฯมีเจตนาแอบแฝงให้มีการล้มการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้นฝ่ายค้านที่มีเสียงไม่เท่าไหร่ก็จะตรวจสอบอะไรไม่ได้ หากจะดำเนินต่อไปขอร้องว่าอย่ากระทบกระเทียบได้ไหมก็จะได้เดินกันไปต่อ
ขณะที่นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิ์ของฝ่ายค้านในการเสนอนับองค์ประชุม ก็ควรทำตามข้อบังคับไม่ควรที่จะกลัว
ถ้าไม่ครบก็ปิดการประชุม ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปรัฐฐาล กล่าวว่า บรรยากาศที่ประชุมที่ผ่านมาเราก็พยายามผ่อนสั้นผ่อนยาว หลายๆครั้งในการประชุมต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ดังนั้นจึงขอความกรุณาจากฝ่ายค้านเพราะประชุมร่วมรัฐสภาไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แต่ทุกคนเป็นสมาชิกรัฐสภา วุฒิสภาเขาก็ประชุมอยู่ด้วย จึงขอให้ผ่อนผันได้หรือไม่และจะทำตามทุกอย่างที่ได้ขอไว้
ด้านนายวิทยา บูรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การพูดพาดพิงในเชิงเสียดสี ซึ่งคนอภิปรายก็ทำมาตลอด คนถูกพาดพิงก็ทำมาตลอด ซึ่งก็ต้องเห็นใจฝ่ายค้าน ซึ่งเสียงก็น้อยไว้อยู่แล้ว จึงขอให้ประธานในที่ประชุมได้ทำตามระเบียบข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นประธานก็ต้องเชิญบุคคลนั้นออกจากห้องประชุม เพื่อบรรยากาศที่ดี
นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา อภิปราย ดูสถานการณ์แล้ว หากฝ่ายค้านไม่ยอมถอนการนับองค์ประชุม
ซึ่งถ้าจะให้เดินไปได้ ก็ขอให้มีการนับองค์ประชุมต่อไป ซึ่งนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุมแบบการขานชื่อ อย่างไรก็ตามนายชัยก็ยังยืนยันว่า การประชุมวันนี้เป็นการประชุมต่อจากเมื่อวานและวันนี้ยังไม่มีการลงมติใดๆ แต่นายสุนัยก็ยังยืนยันว่าเมื่อทุกฝ่ายเห็นตรงกันก็ควรนับองค์ประชุม และเพื่อกระตุ้นในการมาทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาด้วย สุดท้ายนายชัยได้สั่งให้สมาชิกรัฐสภาทุกคนให้งดการประชุมคณะกรรมาธิการฯชุดต่างๆและให้เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม ขณะที่นายสุพจน์ โพธิ์ทองคำ ส.ว. สรรหา ได้พยายามทักท้วงว่า การประชุมร่วมรัฐสภาวันนี้เป็นการพักการประชุมมาจากเมื่อวาน จึงยังมีสมาชิกบางส่วนที่ยังไม่ได้อภิปราย และยังติดภารกิจด้านนอก จึงยังเดินทางมาไม่ถึง แต่อย่างไรก็ตามนายชัย ยังคงกดออดให้สมาชิกรัฐสภามาเสียบบัตรแสดงตน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อมาเมื่อเวลา 10.55 น. นายชัย ได้กดออดนานเกือบ 10 นาที เพื่อเรียกสมาชิกรัฐสภากดบัตรแสดงตน
ซึ่งระหว่างกดออดนายวิทยา กล่าวว่า ตนอยากเห็นภาพประธานตรงไป ตรงมาบ้าง โดยเฉพาะในการนับองค์ประชุม นี่คือกฎหมายสูงสุดของประเทศ นับผลได้แล้ว กล้าๆหน่อยๆ แต่นายชัย ไม่ได้สนใจและไม่ยอมขานคะแนนการนับองค์ประชุม แต่กับไปกล่าวต้อนรับผู้ที่มาเยี่ยมรัฐสภาแทน จากนั้นนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้เสนอว่า ในเมื่อ นพ.วรงค์ เสนอให้ขานชื่อและมีสมาชิกรับรองแล้วก็ควรปฏิบัติตามนั้น ซึ่งนายชัย ได้กล่าวว่า ตนก็กำลังวินิจฉัยอยู่ว่าจะพิจารณาอย่างไร ซึ่งในที่สุดนายชัยก็ได้มีการนับองค์ประชุมแบบขานชื่อ