นายชวน หลีกภัย ส.ส.สัดส่วน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธวันที่ 23 พฤศจิกายน
ถึงกรณีมีข่าวว่า ส.ส.ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่มี เพราะตามหลักต้องยึดตามมติพรรค แต่ที่เราท้วงติงมาตั้งแต่ต้นคือระบบเขตเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญปี50 เขียนไว้ว่าให้มีส.ส.เขตละไม่เกิน 3 คน ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอเรื่องนี้เอง ดังนั้นต้องอธิบายเมื่อจะเปลี่ยนแนวทางมาเป็นเขตเล็ก แต่เมื่อมีการถกเถียงกันภายในพรรค ซึ่งตอนนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคไม่อยู่ ตนจึงเสนอว่าคนที่ขอให้เขียนรัฐธรรมนูญอย่างนี้คือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อจะเปลี่ยนทำไมต้องฟังหัวหน้าพรรค การประชุมจึงหยุดชะงักไป
“แต่ในครั้งนี้ผมได้คุยกับหัวหน้าพรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยหัวหน้าพรรคได้เล่าถึงการเสนอคณะกรรมการ ชุดที่มีนายสมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ เป็นประธานดำเนินการ และโดยปกติพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีปัญหา มติพรรคออกมาอย่างไรก็จะทำตามนั้น ไม่มีข้อขัดแย้ง แต่ว่าต้องใช้เหตุผลไม่ใช่ไปขู่ เอาเรื่องเงินมาขู่ว่าถ้าไม่ลงมติแล้วจะไม่ให้เงินลงเลือกตั้ง อย่าทำอย่างนั้น ซึ่งเที่ยวที่แล้วผมก็ติงไว้ว่าต้องใช้เหตุผล และมติเป็นอย่างไรก็จะเคารพมติ ”นายชวนกล่าว
เมื่อถามว่าแสดงว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่โหวตสวนมติของพรรคใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คงไม่มี สำหรับตนมติพรรคเป็นอย่างไรก็เคารพ
ส่วนข่าวการวอลค์เอ้าท์จากที่ประชุมของส.ส.ก็ไม่เป็นความจริง ตนเข้าประชุมแต่ได้นัดประชุมคณะทำงานเรื่องคดียุบพรรค จึงต้องออกมาประชุม เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะยกมือสนับสนุนจองรัฐบาลใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวย้ำว่า มติพรรคเป็นอย่างไร ทุกคนก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ต้องใช้เหตุผลในการพูดจาทำความเข้าใจกัน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เสนอเองว่าให้ใช้การเลือกตั้งแบบเขตใหญ่ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ยืนยันกับตนว่ายังเห็นเหมือนเดิม แต่เมื่อเป็นมติหรือเป็นความเห็นของผู้ที่หัวหน้าพรรคให้ยกร่างมา หรือเลขาธิการพรรคคงจะไปตกลงกันไว้ตอนตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีปัญหาการเอาเรื่องเงินมาขู่กันในพรรคหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า คงไม่มีแล้ว เพราะยังไม่ได้ยินว่าใครขู่ใคร
เพราะอาจจะรู้ตัวแล้วว่า ถ้าใช้วิธีอย่างนี้ พวกเราคงไม่ยอม แต่ต้องให้เหตุผลกันว่าเพราะอะไร เพราะคุณไปตกลงกับเขาใช่หรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้น คนเป็นนักการเมืองก็ต้องรักษาคำพูด พูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ส่วนจะเป็นภาวะจำยอม เพราะเป็นเรื่องการไปตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น คงต้องไปถามหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้คุยกับนายกฯ แต่ไม่ได้คุยกับเลขาธิการพรรค ทั้งนี้ได้คุยกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ซึ่งทุกคนมีความคิดเหมือนกัน ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยเห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบเขตใหญ่ เพราะจะป้องกันการซื้อเสียงได้ดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มติพรรค สวนทางกับจุดยืนที่นายชวนเคยมีรู้สึกอย่างไร นายชวนกล่าวว่า
เราต้องเคารพส่วนรวม จะเอาตัวเองเป็นหลักไม่ได้ และไม่ได้เป็นการกลืนเลือดอะไร เพราะปกติเป็นคนกลืนน้ำธรรมดา แต่สมาชิกพรรคในระบบรัฐสภา ต้องเคารพมติพรรค เพราะระบบอยู่ได้ด้วยเสียงข้างมาก ถ้าส.ส.ไม่เคารพมติพรรค รัฐบาลก็อยู่ยาก ไม่เหมือนระบบประธานาธิบดี