ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมรามาการ์เด็นท์ ถนนวิภาวดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เข้าร่วมประชุมวิชาการสุราระดับชาติ พร้อมเป็นองค์ปาฐกเรื่อง "ปฏิรูปอนาคตประเทศไทย" โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เยาวชนและสตรีกลายเป็นเหยื่อสุราและบุหรี่มากขึ้น ซึ่งต่อไปต้องพยายามจำกัดวงกลุ่มเป้าหมายนี้ให้ได้ เมื่อรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ จึงได้ส่งสัญญาณชัดเจนเรื่องการขึ้นภาษีสุราและบุหรี่ ซึ่งทุกครั้งที่มีการขึ้นภาษี จำนวนผู้เสพก็จะลดลง ดังนั้นคงต้องขึ้นอีกเรื่อยๆ แต่ต้องรอดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่ามาตรการจัดการเด็ดขาด ที่หลายประเทศนำมาใช้ไม่ได้ผล
และกลายเป็นการเข้าไปพัวพันกับองค์กรผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้ปัญหาหนักกว่าเก่า ดังนั้นแนวทางที่รัฐบาลจะใช้คือการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือจูงใจไม่ให้คนดื่มสุราและสูบบุหรี่ รวมถึงควบคุมมาตรการด้านการตลาด เช่น การห้ามโฆษณาบุหรี่ ซึ่งขณะนี้มี 2 ประเทศคือประเทศออสเตรเลีย และประเทศอังกฤษ เริ่มคิดถึงการบังคับให้บุหรี่ต้องจำหน่ายในซองที่ไม่มีตราสินค้า หรือจำกัดพื้นที่วางสินค้า
"ตัวผมเองยอมรับว่าดื่มนิดหน่อย ดื่มแล้วไม่เมา แต่ขอยืนยันว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขด้านสังคม ผมเป็นนายกฯ ที่ดูแลงานด้านสังคมเอง ไม่ได้มอบหมายให้รองนายกฯ ดูแลแทน" นายกรัฐมนตรีกล่าว