ดีเอสไอไม่ขัดเลิก พ.รก.ฉุกเฉินฯ

ชี้ส่งผลผู้ต้องหาตามหมายจับคดีผิด พ.ร.ก.พ้นผิด ยันไม่เกี่ยวคดีก่อการร้าย วางเพลิง ปล้นทรัพย์

วันนี้ (20 พ.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ว่า ในส่วนของดีเอสไอยังไม่พบรายงานการข่าว หรือข้อมูลใดบ่งชี้ว่าจะมีการก่อความไม่สงบ หรือความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากประเทศบอบช้ำจากภัยพิบัติน้ำท่วมในหลายจังหวัด อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงไม่ทราบถึงเหตุผลที่มีการเสนอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งนี้ หากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะส่งผลให้ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ้นความผิด โดยถือว่าไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้อีก เว้นแต่รายที่มีหมายจับคดีอื่น ๆ ติดตัว เช่น หมายจับคดีก่อการร้าย คดีวางเพลิง ปล้นทรัพย์ พกพาอาวุธ รวมถึงคดีกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์

สำหรับคดีการก่อการร้าย และเหตุร้ายต่าง ๆ ที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติให้รับโอนเป็นคดีพิเศษ มีทั้งสิ้น 253 คดี แบ่งเป็นคดีก่อการร้าย 141 คดี, การขู่บังคับให้รัฐบาลกระทำการใด ๆ 21 คดี, การทำร้ายประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ 75 คดี, การกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของราชการ 16 คดี ในจำนวนคดีพิเศษดังกล่าว เป็นคดีที่รู้ตัวผู้กระทำผิด และมีการออกหมายจับ แต่จับกุมตัวมาดำเนินคดีไม่ได้ รวม 16 คดี 41 หมายจับ

กลุ่มที่ 1 เป็นคดีก่อการร้าย 9 คดี ผู้ต้องหา 30 คน กลุ่มที่ 2 คดีขู่บังคับรัฐบาลจำนวน 5 คดี ผู้ต้องหา 8 คน และกลุ่มที่ 3 คดีทำร้ายประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 3 คน สำหรับผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายที่จัดอยู่ในกลุ่มฮาร์ดคอร์ และยังจับกุมตัวไม่ได้ ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายอดิศร เพียงเกษ, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นายอารี ไกรนรา



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์