วันที่ 19 พ.ย. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายจุดวันนี้ ว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลอย่างรัดกุม เบื้องต้นไม่ได้มีอะไรเป็นปัญหา สำหรับจำนวนผู้ชุมนุมนั้นทางรัฐบาลก็มีการประเมินอยู่ แต่ตนบอกไม่ได้เพราะไม่ว่าจะบอกว่ามีจำนวนมากหรือน้อยก็จะเป็นปัญหา
เมื่อถามว่าเกรงว่าจะมีมือที่สามสวมรอยก่อเหตุหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการชุมนุมเราก็มีความเป็นห่วง แล้วก็ขอความร่วมมือหากมาด้วยเจตนาจะแสดงออกตามรัฐธรรมนูญก็ขอให้นร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ก็มีการประสานงานและเท่าที่ทราบก็ประสานงานกันดีอยู่
ด้านศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) มีการออกคำสั่งที่ 141/2553 เรื่อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ออกคำสั่งยึด หรือ อายัด สินค้าหรือวัตถุอื่นใดที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ดังนี้
1.ห้าม บุคคลใดมีไว้ครอบครอง หรือมีไว้เพื่อการจำหน่ายจ่ายแจก ซึ่งสินค้าเสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภคหรือวัตถุอื่นใดที่มีการพิมพ์ เขียน วาดภาพ ถ่ายภาพ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้ปรากฏความหมายในลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม สร้างความปั่นป่วน หรือก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนโดยทั่วไป หรือเพื่อการกระทำหรือสนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
2.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัด สินค้าเสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภค หรือวัตถุอื่นใด ตามข้อ 1 โดยให้มีอำนาจกระทำการเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน
3.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามคำสั่งนี้
4. ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. กล่าวถึงผลการประชุมศอฉ.ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะผอ. ศอฉ.ว่า ในที่ประชุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายข่าวของศอฉ.มีการรายงานความเคลื่อนไหวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อ แดงวันที่ 19 พ.ย.ว่า จะมีการชุมนุมในจุดใด อย่างไรบ้าง ส่วนคำสั่งของศอฉ.ที่ห้ามไม่ให้มีการจำหน่าย จ่าย แจกสินค้าที่ทำให้เกิดความแตกแยกนั้น ตนยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งไหนจะเข้าข่ายต่อการฝ่าฝืนคำสั่ง เพราะต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบว่า การจำหน่าย จ่าย แจกสินค้านั้นๆ มีการกระทำเพื่อทำลายความปรองดอง ความสามัคคี อย่างโจ่งแจ้งหรือไม่ เช่น ตีนตบของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ไม่เป็นไรเพราะไม่ถือว่า เข้าข่ายสร้างความแตกแยก แต่กรณีรองเท้าแตะที่มีรูปใบหน้าบุคคลอื่น หรือกรณีที่มีการเขียนข้อความที่ไม่เหมาะสมลงบนสินค้า รวมถึงข้อความที่มีการพาดพิงสถาบันถือว่าไม่เหมาะสมและมีความผิดตามคำสั่งของศอฉ. แต่เบื้องต้น ทางตำรวจระบุว่า หากพบเห็นจะมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่หากยังฝ่าฝืนคำสั่งก็ถือว่า ขัดคำสั่งของศอฉ.
สำหรับการจัดการจราจรบริเวณสี่แยกราชประสงค์ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าประสานแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนายจตุพร พรหมพันธ์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ไม่ให้นำรถยนต์เข้ามาจอดบริเวณแยกราชประสงค์เด็ดขาด โดยจัดสถานที่จอดรถไว้ 3 แห่ง คือ ลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 6 สวนลุมไนท์บาซ่าร์ และถนนอังรีดูนังค์ เพราะในช่วงเลิกงาน 5 โมงเย็นจราจรคับคั่งอยู่แล้วทั้งสกายวอร์คและถนนด้านล่างไม่อยากให้กระทบกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจาการชุมนุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมให้การชุมนุมภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป แต่ยังเกรงว่า หากมีกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากอาจทำให้การควบคุมฝูงชนทำได้ยาก จึงฝากแกนนำให้ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดและห้ามใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ และรุกล้ำพื้นผิวการจราจรอย่างเด็ดขาด ใช้ได้เฉพาะเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กเท่านั้น โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบสืบสวนหาข่าวและประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงเข้าสู่บริเวณการผู้ชุมนุม เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายและการกระทบกระทั่งระหว่างกลุ่มต่างๆ