นายกฯ แจง 9 บทบาทของรัฐ หลังคลอด พ.ร.บ.คลื่นความถี่ ยันแก้ พ.ร.บ.คอมฯ-ออกกติกาคุมสื่อใหม่ ไม่ละเมิดสิทธิ์
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาหัวข้อ “บทบาทด้านสื่อและโทรคมนาคมของรัฐบาล หลังพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯฉบับใหม่บังคับใช้” ซึ่งจัดโดยสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ว่า กฎหมายดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และวุฒิสภาได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่ามา ซึ่งขั้นตอนต่อไปรัฐสภาจะส่งเรื่องให้ตนนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป สำหรับกฎหมายนี้เป็นการเริ่มต้นที่จะจัดระเบียบหรือจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงกำหนดตัวองค์กรที่จะจัดสรรคลื่นความถี่ทั้งหมด และครอบคลุมการแก้ปัญหาวงกติกา รวมทั้งดูแลบางเรื่อง เช่น 3จี เป็นต้น และสภาวะการหลอมรวมด้านเทคโนโลยีปัจจุบัน การกำกับเนื้อหาจากใช้สื่อเหล่านี้ที่ทำให้อุตสาหกรรมเหล่านี้มีการพัฒนา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกปิดกั้นการรับข้อมูลข่าวสาร
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนบทบาทของรัฐบาลนั้น มีหลายด้านที่เป็นเรื่องสำคัญ คือ
1.ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)โดยเร็ว
2.กำหนดนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้มีความชัดเจนมากในการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานและการทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการข้อมูลข่าวสารของประชาชนได้มากที่สุด โดยรัฐบาลตั้งเป้าว่าเครือข่ายข้อมูลจะสนับสนุนการศึกษา เศรษฐกิจ การทำธุรกรรม พัฒนาชีวิตของประชาชนด้านสุขภาพและระบบการให้บริการภาครัฐ รวมทั้งทำให้การแข่งขันให้เป็นธรรม เสมอภาค เพื่อแก้ปัญหามรดกในอดีตที่มีความไม่เท่าเทียมเหลื่อมล้ำในองค์กรที่กำกับดูแล
3.เจรจาและทำความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวข้องกับความถี่และการกระจายเสียง กับรัฐบาลต่างประเทศ โดยมี กสทช.และสำนักงานฯตามพ.ร.บ.ดังกล่าว มีส่วนในการให้ข้อมูลในการเจรจาระหว่างประเทศ
4.ติดตามการทำงานของ กสทช.ที่ต้องทำรายงานประจำปีเสนอคณะรัฐมนตรี
5.ต้องทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง ซึ่งมีการปรับแผนด้านเทคโนโลยีให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะคำนึงผลกระทบ
6.กำกับดูแลหน่วยงานของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่น ให้ใช้คลื่นความถี่อย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
7.ติดตามผู้ประกอบวิชาชีพสื่อให้ทำหน้าที่อย่างมีจรรยาบรรณ
8.ทบทวนแนวทางการใช้พ.ร.บ.ว่าการด้วยกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์
9.วางแนวทางการจัดระบบการใช้สื่อสมัยใหม่ของประชาชนในการกระจายข้อมูลถึงกันและกันโดยไม่ผ่านตัวกลาง ให้มีมารยาทและกติกา เพื่อไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิ์ ซึ่งมีความอันตราย รวมถึงกระทบความมั่นคงและประโยชน์ของส่วนรวม
“ผมหวังว่าสมาคม ผู้ปฏิบัติ และนักวิชาการสนใจการให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากการบริการสาธารณะ และผมต้องการเห็นความเป็นธรรมโปร่งใส และนำไปพัฒนาจิตสำนึกให้อยู่ภายใต้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายกฯ กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
