นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา
ถึงกระแสข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจยับยั้งการอนุญาตให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดง ที่ยังถูกควบคุมตัวตามข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมว่า จากการตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง เพราะการให้ประกันตัวผู้ต้องขัง เป็นไปตามดุลยพินิจของศาลตามกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือคนที่ไม่สามารถประกันตัวได้ตามเหตุผล โดยเฉพาะในกลุ่มที่ได้มีการตรวจสอบแล้วว่าอาจมีความยากลำบากในการประกันตัว โดยใช้กองทุนยุติธรรม
"การตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลมีอำนาจในการตัดสินเรื่องการประกันตัวนั้นไม่จริง ซึ่งจากการตรวจสอบจดหมายที่นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถึงศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) จากรมว.กลาโหมแล้ว โดย รมว.กลาโหมได้ตอบกลับไปว่า ศอฉ.ไม่มีอำนาจในการให้ประกันตัว แต่ก็ยินดีที่จะมีการปรองดองและร่วมมือกันทำงานในด้านความสมานฉันท์ ขณะเดียวกัน รมว.กลาโหม ก็ได้ยืนยันว่าไม่ได้ส่งเรื่องมาถึงนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นอำนวจของ ศอฉ.ที่จะดำเนินการเรื่องให้ข้อมูล จึงไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี" นายปณิธาน กล่าวและว่า นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ยินดีที่จะพบปะกับผู้ต้องขังที่อาจจะมีความเดือดร้อน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีรายหนึ่งติดต่อขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี ผ่านกระทรวงยุติธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยินดีให้พบ โดยรอความพร้อมอีกระยะหนึ่ง
นายปณิธาน กล่าวว่า การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย กระบวนการการตรวจสอบและให้ประกันตัว ผ่านกองทุนยุติธรรมนั้น ดำเนินการเหมือนกันทุกพื้นที่ แม้อาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง โดยในพื้นที่ภาคใต้จะมีการกลั่นกรองว่าผู้ต้องขังนั้นมีความเหมาะสมในแง่ความมั่นคงอย่างไร ซึ่งในส่วนของตัวเลขคนเสื้อแดงที่ยังถูกควบคุมตัวนั้นเหลืออยู่ประมาณ 50 คนในคดีละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งอยู่ในระหว่างที่ศาลจะเป็นผู้พิจารณา