“จตุพร” อ้างนักกฎหมายใหญ่ชี้คำแถลงดีเอสไอมัดผู้นำรัฐบาล-ทหารสั่งฆ่าประชาชน ลั่นใช้ฟ้องศาลระหว่างประเทศ ลั่นอยากเจอ “สรรเสริญ”
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยและแกนนำกลุ่ม นปช. แถลงว่า สืบเนื่องจากการแถลงข่าวของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอและพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอใน 4 คดีการเสียชีวิตจากเหตุการณ์บริเวณ 1.วัดปทุมวนารามฯ จำนวน 3 ศพ 2.กรณีพลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ ถูกยิงบริเวณสี่แยกอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 3.กรณีนายมานะ อาจราญ ที่สวนสัตว์ดุสิตและ 4.กรณีผู้สื่อข่าวญี่ปุ่น บริเวณถนนดินสอ โดยคำพูดที่นายธาริตและพ.ต.อ.ณรัชต์ ระบุว่าการตายทั้ง 4 คดีส่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องนั้น ตามหลักกฎหมายหมายถึงเป็นความตายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการ ซึ่งจากการประชุมซึ่งมีนักกฎหมายระดับอาจารย์ใหญ่หลายท่านเข้าร่วม ชี้ว่าดีเอสไอได้ดำเนินการเปิดประตูเข้าสู่กระบวนการชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.157 แล้ว และเข้าเงื่อนไขที่บุคคลในรัฐบาลและผู้นำทหารจะต้องรับผิดในฐานะเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ม.289 ซึ่งมีโทษประหารชีวิตเพียงสถานเดียว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า และจากคำแถลงของพ.ต.อ.ณรัชต์ ต่อคดี 3 ศพในวัดปทุมวนารามฯ ระบุว่าจากการชันสูตรศพรูกระสุนคราบตะกั่วทองแดง
โดย 5 ใน 6 ศพพบกระสุนฝังใน จากการที่ดีเอสไอร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณรางรถไปฟ้าบีทีเอส ปรากฏว่าบาดแผลกระสุน วิถีกระสุนถูกยิงจากบนลงล่าง นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืน 2 ปลอกและกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 นัด ขณะที่ทหารยอมรับว่าส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าไปประจำจุดบริเวณรางรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวน 8 นาย ซึ่งพยานหลักฐานมั่นคงเช่นนี้เห็นตนเห็นว่ารัฐบาลและผู้นำทหารใกล้คุกและหลักประหารเข้าไปทุกทีแล้ว นับแต่นี้ไปจึงขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องที่มีอำนาจรัฐใช้อำนาจโดยคำนึงถึงหลักนิติธรรม ในส่วนที่มีข้อกล่าวหาว่าการเสียชีวิตบางคดีว่าเป็นฝีมือ นปช.นั้นพวกตนพร้อมต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
แกนนำ กลุ่ม นปช. รายนี้ยังกล่าวว่า เมื่อการแถลงของอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอ ถือว่าความจริงปรากฏแล้วว่าทหารฆ่าประชาชน
จึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และอัยการสูงสุดเร่งรัดส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพภายใน 30 วันตามกฎหมายและเสนอสำนวนต่อศาลเพื่อไต่สวนไม่มีเหตุผลใดจะประวิงเวลาต่อไป ขณะที่ดีเอสไอต้องรีบแถลงผลการตายของประชาชนส่วนที่เหลือ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและขอให้รัฐบาล ทหาร ยุติการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทั้งดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยผู้นำรัฐบาลและทหารต้องพร้อมพิสูจน์ข้อกล่าวหาสั่งฆ่าประชาชน สุดท้ายขอศาลยุติธรรมได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม เพื่อนำความยุติธรรมคืนสู่สังคม
“ที่ผ่านมาสำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดมแอนด์เปรอฟรอผลการสอบสวนนี้อย่างเดียว จากนี้จะเร่งนำไปเป็นเหตุฟ้องร้องศาลอาญาระหว่างประเทศต่อไป อีกทั้งจะนำไปเป็นเหตุขอยื่นประกันตัวพี่น้องเสื้อแดง เพราะเมื่อผลสอบสวนปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รัฐเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตพี่น้องเราก็สมควรได้รับการประกันตัว อย่างไรก็ตามทราบเบื้องหลังว่าก่อนที่ดีเอสไอจะออกมาแถลง มีหลายคนไปล็อบบี้ แต่ไม่สำเร็จ เพราะข้อเท็จจริงปรากฏชัด และเวลานี้หลายคนในรัฐบาลกับกองทัพก็อยู่อย่างไม่เป็นสุข จึงอยากฝากความระลึกถึง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.ผอ.สถาบัน นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรมให้มาก ๆ” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.จะเชิญแกนนำ นปช.
ไปตกลงรายละเอียดว่าสามารถทำสิ่งใดได้และไม่ได้ในการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ว่า เมื่อ พ.อ.สรรเสริญ นัดตนผ่านสื่อ แต่ยังไม่มีกำหนดวันเวลาชัดเจน ตนก็ขอนัด พ.อ.สรรเสริญ ผ่านสื่อว่าในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปพบ ศอฉ.ที่หอประชุมกองทัพบก ย่านเทเวศน์ ในเวลา 11.00 น. ซึ่งไม่ทราบว่า ศอฉ.จะส่งใครมาพบ แต่ตนอยากเจอพ.อ.สรรเสริญ และจะบอกไปว่าในวันที่ 19 พ.ย.นี้ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะกิจกรรมจะมีเพียงไหว้ท้าวมหาพรหมขอให้ปล่อยตัวพี่น้องคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่และให้ลงโทษคนที่ฆ่าประชาชนเท่านั้น นอกจากนี้ทราบว่า ศอฉ.ได้ออกหมายเรียก พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรีและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองเข้าพบในวันที่ 19 พ.ย.ซึ่งไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร.