คมชัดลึก :สธ.วุ่นหนัก สผพท.ยื่นหนังสือจี้ "จุรินทร์"ปลด"หมอไพจิตร์" พ้นเก้าอี้ปลัดกระทรวง แถมแฉมีคลิปแพร่ในยูทูบเป็นภาพ "บิ๊ก สธ." นัวเนียนักศึกษาสาว ด้าน "หมอไพจิตร์" โต้ทันควัน ยันไม่ใช่ตัวเองแน่ เผยแจ้งความเอาผิดคนโพสต์แล้ว แถมจ่อแจ้งเอาผิดคนที่ออกมาแฉฐานหมิ่นประมาทด้วย นพ.ฐาปนวงศ์กล่าวว่า นพ.ไพจิตร์ ในฐานะคณะกรรมการสมานฉันท์พิจารณาร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการรับบริการสาธารณสุข และร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับบริการและผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการบริการสาธารณสุข ได้มีการเสนอ 12 ประเด็นต่อรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายดังกล่าว ทั้งที่ไม่ใช่บทสรุปที่แท้จริงเนื่องจากการประชุมไม่ครบองค์ประชุม และไม่มีการลงมติ นพ.ฐาปนวงศ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พญ.อรพรรณ์กล่าวว่า จากพฤติกรรมหลายอย่างประกอบกัน ขอเรียกร้องให้นายจุรินทร์สั่งปลด นพ.ไพจิตร์ออกจากตำแหน่ง เพราะถือว่าไม่มีจริยธรรมที่จะนั่งอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป ในวงการสาธารณสุขรู้สึกอึดอัดกันหมด หากมีการทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของ นพ.ไพจิตร์ จะเป็นผลดีต่อกระทรวง
ได้ชี้มูลความผิดต่อ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานบอร์ดองค์การเภสัช ทุจริตน้ำมันหลวงถึง 197 ครั้ง มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 แต่จนถึงขณะนี้ นพ.ไพจิตร์ กลับไม่ดำเนินการใดๆ ต่อกับคนทุจริต กลับอ้างว่าเรื่องยุติ เพราะคนทุจริตได้รับการนิรโทษกรรม และมีข้อสังเกตว่า นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะมีเรื่องการทุจริตในกระทรวงสาธารณสุขเรื่องใด มักจะออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนทันทีทุกครั้ง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเงียบไป เชื่อว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้ง 3 คนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน มีอะไรซ่อนเร้นหรือไม่
แฉคลิปบิ๊กสธ.นัวเนียนักศึกษาสาว
หลังจากนั้น นพ.ฐาปนวงศ์ได้กล่าวถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผู้บริหารกระทรวง
โดยระบุว่า ในโอกาสนี้ได้ร้องเรียนให้ รมว.สาธารณสุข ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบพบคลิปที่ทำให้คนของกระทรวงสาธารณสุขไม่สบายใจ เนื่องจากมีภาพบุคคลหน้าคล้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเชิงชู้สาว เผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ยูทูบ โดยมีภาพนักศึกษาสาวนั่งแนบชิด และผู้บริหารคนดังกล่าวใช้มือโอบกอดที่เอวอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ของกระทรวงเสียหาย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบล่าสุด พบว่าคลิปดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้ว แต่ยังมีคลิปอีกชุดที่มีพฤติกรรมเข้มข้นมากกว่านี้ ที่ยังเผยแพร่อยู่ในยูทูบ
ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแถลงชี้แจงเรื่องคลิปดังกล่าวว่า
ตนยืนยันในความบริสุทธิ์และไม่มีพฤติกรรมอย่างในรูปแน่นอน และเรื่องนี้ตนทราบมาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และได้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดผู้ที่โพสต์รูปนี้แล้ว เพราะเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเองตั้งแต่ต้น และเชื่อว่าต้องมีต่ออีกแน่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านเทคโนโลยีจึงอาจใช้เวลาไม่เร็วนัก และจะดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่แถลงข่าวเรื่องนี้ต่อสาธารณะด้วยเพราะเป็นการหมิ่นประมาท และการกระทำเช่นนี้คงไม่ใช่รุ่นพี่รุ่นน้องกันแล้ว ทั้งที่ปกติตนเป็นคนอดทนสูง ศัตรูไม่เคยมี
“เวลาเราเป็นปลัดกระทรวง ก็ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม แต่คงมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมาก จึงไม่ทราบว่าเป็นใครที่เป็นคนโพสต์ และเรื่องที่รับมาดำเนินการก็ล้วนแต่อยู่ท่ามกลางคน 2 กลุ่มตลอดมา จะให้ใครมารักเราหมดก็ไม่ได้ ถ้าแพทย์กลุ่มไหนไม่ต้องการให้ผมเป็นปลัดกระทรวงก็บอก ไม่ควรเล่นเรื่องแบบนี้ ถ้าบอกว่าผมทำงานไม่มีประสิทธิภาพจะดีกว่า ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก็อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาโรงพยาบาลขาดทุนทั้งระบบ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุขคิดแล้วจะทำได้เลย สปสช.ต้องร่วมมือด้วย และได้รับความร่วมมืออย่างดี” นพ.ไพจิตร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการตัดต่อรูปหรือไม่ นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเป็นการตัดต่อหรือไม่ แต่ยืนยันได้แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวเรา เพราะเราไม่ได้ทำ เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ถ้าทำจริงจะสบายใจกว่านี้
เมื่อถามว่ามีความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองหรือไม่ นพ.ไพจิตร์กล่าวอีกว่า ตนสนองนโยบายรัฐบาล และ รมว.สาธารณสุข ทุกเรื่อง ช่วยแก้ปัญหาหลายเรื่อง ไม่มีปัญหาความขัดแย้ง เพราะอะไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็จะจัดสรรงบประมาณเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายที่เป็นประโยชน์ ผู้สื่อข่าวซักถามต่อว่า คิดว่าเป็นกระบวนการเลื่อยขาเก้าอี้หรือไม่ นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ในการทำงานตนเป็นคนมองคนในแง่ดี ไม่เคยคิดอะไรในใจ ไม่คิดไปทำร้ายใครหรือกลั่นแกล้งใคร
นพ.ไพจิตร์ยังกล่าวถึงกรณีมีคนส่งข้อความโจมตีไปทางโทรศัพท์มือถือของนักข่าวว่า โดนโจมตีด้วยข้อความตั้งแต่รับตำแหน่งปลัดกระทรวงสาธารณสุขใหม่ๆ นานเป็นปีที่มีการใส่ความตน
"การทำงานต่อจากนี้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา ซึ่งส่วนตัวไม่มีปัญหา เพราะมีงานต้องทำอีกมาก ในปีงบประมาณ 2554 ก็มีหลายโครงการที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน และที่ผ่านมา รมว.สาธารณสุขก็ให้เกียรติ ไม่เคยถามเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่เชื่อว่ารัฐมนตรีน่าจะได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือเช่นกัน ยกเว้นผมคนเดียวที่ไม่ได้ข้อความ "นพ.ไพจิตร์กล่าว