ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาเป็นประธาน ในช่วงเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือก่อนเข้าสู่วาระ นายประสาร มฤคพิทักษ์ สว.สรรหา หารือเรื่องคลิปศาลรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นหนังที่ยังไม่จบม้วน สิ่งน่าคิดคือ คลิปที่ออกมาทำขึ้นเพื่ออะไร คลิปข้อสอบรั่วนั้น เป็นเหตุที่เกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนคลิปชุดแรก เป็นไปได้อย่างไรว่า ประธานองคมนตรีจะมาล็อบบี้ต่อคน 6 คน เพื่อไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นความจงใจจัดตั้ง และเป็นความร่วมมือของภาคการเมือง ที่ออกมาระบุชัดว่า ถ้าหากไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเปิดโปงคลิปชุดต่างๆ ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่น่ากังวลมาก
“กระบวนการนี้ต้องการทำลายอำนาจตุลาการของระบอบประชาธิปไตย จัดตั้งมาอย่างเป็นระบบ แอบไปอัด แอบถ่าย แอบตัดต่อ กระทั่งเอาประธานองคมนตรีมาเป็นเหยื่อเพื่อทำลายความชอบธรรมของขบวนการตุลาการ หากศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเข้าทางตามน้ำเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์ทำผิด แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก็เข้าล็อกว่า เป็นสองมาตรฐานศาลไม่มีความชอบธรรม โดยอาศัยคลิปที่ออกมาเป็นระยะๆ”นายประสารกล่าว
ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขอหารือไปยังนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) เนื่องด้วยขณะนี้ องค์การตุลาการได้ถูกดิสเครดิตและถูกทำลาย ไม่ว่าเรื่องคดียุบพรรค การถ่ายทำคลิปวิดีโอ หลายครั้ง ที่ผ่านมามีการใช้เงินเพื่อวิ่งสำนวน การขู่วางระเบิด การยิงเอ็ม 79 เข้าไปยังบ้านพักพรรคของตุลาการ เมื่อไม่ได้ผลก็ใช้คลิปวิดีโอ ซึ่งตนได้ดูแล้ว มีการตัดต่อทั้งสิ้น แบบเดียวกับที่นายกฯเคยถูกตัดต่อเสียง เป็นเรื่องที่บังคับทางให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนที่เคยยุบพรรคไทยรักไทย ตรงกับการแถลงของส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เรียกร้องให้ตุลาการลาออกทั้งคณะ โดยใช้วิธีการแบ็คเมลด้วยคลิปวิดีโอ ดังนั้นนายกฯ ซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด ต้องส่งคลิปให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หรือนิติวิทยาศาสตร์ดำเนินการ รวมถึงให้กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยี (ไอซีที)ดำเนินการเผยแพร่ข้อมูล โดยใช้พ.ร.บ.ประกอบอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ตรวจสอบ และนำตัวผู้กระทำผิดที่หลบไปต่างประทศกลับมา โดยประสารตำรวจสากล เพื่อปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย ให้น่าเชื่อถือ