โฆษกมาร์คเหน็บบิ๊กจิ๋ว ดึงหม่อมเจ้าร่วมพท. เย้ยจงรักภักดีจริง

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

กล่าวเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ถึงกรณีที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาว่ารัฐบาลใช้เงินจากกองทุนยุติธรรม ของกระทรวงยุติธรรม มาประกันตัวผู้ต้องหากลุ่มคนเสื้อแดงว่า เป็นการสร้างภาพและโฆษณาชวนเชื่อ ว่า รัฐบาลไม่ได้สร้างภาพ แต่ได้ทำตามข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่เข้าไปพบผู้ต้องหาเหล่านี้และรับทราบข้อมูลว่า อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกทอดทิ้งจากแกนนำ นปช. จึงได้เข้าไปดูแล โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน

"รัฐบาลปฏิบัติต่อคนเสื้อแดงด้วยความเท่าเทียมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ แต่กลับถูกคนของพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุนให้กลุ่มคนเหล่านี้ทำความผิดมากระแนะกระแหนการทำหน้าที่ของรัฐบาลอีก และที่บอกว่า ถ้ารัฐบาลจริงใจที่จะสร้างความปรองดองต้องประกันตัวคนเสื้อแดงออกมาทั้งหมด และต้องปล่อย 19 แกนนำที่ถูกจำคุกด้วยนั้น  คงต้องไปดูพฤติกรรม ข้อเท็จจริงและฐานความผิดว่าแต่ละคนกระทำอะไรมาบ้าง รัฐบาลจะใช้สิทธิไปประกันตัวได้หรือไม่ เพราะหน้าที่ของรัฐบาลแค่เป็นผู้ขอประกัน ส่วนจะได้ประกันตัวหรือไม่เป็นดุลพินิจของศาล พรรคเพื่อไทยไม่ควรมาเรียกร้องใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้" นายเทพไท กล่าว

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย

กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง ”วิกฤตการณ์การเมืองกับทางรอดประเทศไทย”โดยพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯ ควรมองคนสีเสื้อต่างๆ เป็นสีเดียวกันนั้น นายกฯ ไม่เคยเลือกปฏิบัติต่อคนสีเสื้อใดเป็นกรณีพิเศษ แต่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เห็นได้จากกรณีการประกันตัวคนเสื้อแดง ส่วนที่พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ความเจ็บปวดของคนเสื้อแดง คือ ถูกรัฐบาลกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงนั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เคยกล่าวหา แต่เป็นเพราะพฤติกรรมของคนเสื้อแดงทั้งสิ้น ส่วนที่ระบุว่า เรื่องความจงรักภักดีไม่จำเป็นต้องพูด แต่ให้พิสูจน์ที่การกระทำนั้น ตนขอแนะนำให้พล.อ.ชวลิตเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และกลุ่ม นปช.น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ผ่านเว็บไซด์และเฟซบุ๊คอยู่เป็นประจำ  ทุกครั้งที่มีการนัดชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ก็ยังมีการเขียนข้อความ พ่นสี บนพื้นถนนจาบจ้วง จนเจ้าหน้าที่ต้องไล่จับและปิดเว็บไซด์ต่างๆ เหล่านี้นับครั้งไม่ถ้วน

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่พล.อ.ชวลิตระบุว่า จะมีคนระดับหม่อมเจ้า สมัครเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย

เพื่อการันตีถึงความจงรักภักดีนั้น  ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้เกณฑ์นายพลที่เกษียณอายุราชการกว่า 100 คนมาร่วมเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย  ยังไม่เพียงพออีกหรือ การแอบอ้างว่าจะมีบุคคลสำคัญระดับหม่อมเจ้ามาร่วมงานด้วย น่าจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหาเรื่องความไม่จงรักภักดี ขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมคนไทยทั้งแผ่นดินจึงไม่มีความสงสัยในความจงรักภักดีกับพรรคการเมืองอื่นๆ นอกจากพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง 

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนที่วิจารณ์ว่า หากมีการใช้การเมืองที่ไม่ถูกต้องมานำระบบเศรษฐกิจ จะทำให้บ้านเมืองล่มสลายนั้น

อยากให้พล.อ.ชวลิต นึกย้อนไปปี 2540  ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง จนทำให้ชาติบ้านเมืองเกือบล่มสลายมาแล้วนั้นว่าเป็นฝีมือของนายกฯที่ชื่ออะไร และเป็นการใช้การเมืองที่เลวร้ายมานำระบบเศรษฐกิจหรือไม่  จนได้รับการเปลี่ยนฉายาจากพ่อใหญ่จิ๋ว มาเป็นพ่อใหญ่ลาในที่สุด