เร่งช่วยเหยื่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สร้างปรองดอง

กรมคุ้มครองสิทธิฯ รับประสานกระทรวงแรงงาน-พม.หางานให้ 2 เหยื่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยันเร่งช่วยผู้ต้องขังที่เหลือเต็มที่

วันนี้ (12 พ.ย.) นางนงภรณ์ รุ่งเพชรวงศ์ ผอ.กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ทางองค์กรจะเร่งประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือในการจัดหางานให้กับ นายสมหมาย อินทนาคา และ นายบุญยฤทธิ์  โสดาคำ ผู้ต้องขังคดีกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ได้รับการช่วยเหลือ ด้วยการนำเงินจากกองทุนยุติธรรมเป็นหลักประกันในการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้ช่วยเหลือผู้ต้องขังในคดีผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่เหลือโดยเร็วนั้น กรมคุ้มครองสิทธิฯ ให้ความสำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางปรองดอง โดยผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ขอรับการช่วยเหลือเรื่องประกันตัวมีทั้งสิ้น 48 คน กรมคุ้มครองสิทธิฯ เน้นให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังที่ไม่มีเจตนาในการสร้างความเสียหาย หรือการกระทำความผิด

ทั้งนี้ ยอมรับผู้ต้องขังที่ขอให้ช่วยเหลือเรื่องการประกันตัวบางส่วนไม่ได้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพียงข้อหาเดียว แต่มีข้อหาครองครองอาวุธ และสิ่งผิดกฎหมายอื่นด้วย ในส่วนนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นให้ตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพราะเกรงว่าหากได้รับการประกันตัวแล้วจะกลับไปกระทำความผิด ส่งผลให้งบประมาณกองทุนยุติธรรมสูญเปล่า

สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ขอรับการช่วยเหลือ จากการสำรวจของคณะทำงานการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องขัง จากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ตามที่นายกฯ ได้มอบหมายให้รวบรวมข้อมูล และข้อเท็จจริงของผู้ต้องขังนั้น จากการลงพื้นที่พบกับผู้ต้องขังคดีการเมือง 180 คน ใน 14 เรือนจำ มีผู้ต้องขังคดีการเมืองขอรับการช่วยเหลือ 151 คน แบ่งเป็นช่วยเหลือเรื่องการประกันตัว 48 คน ส่วนที่เหลือคือการดูแลเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่ในเรือนจำ ครอบครัว เรื่องการรักษาพยาบาล ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิ์ฯ ได้ทยอยให้ความช่วยเหลือตามคำร้องขอแล้ว.