แขวะ“มาร์คแก้รัฐธรรมนูญเอาใจพรรคร่วม

“จาตุรนต์” แขวะ “มาร์ค” แก้รัฐธรรมนูญ 2 ประเด็น แค่เอาใจพรรคร่วม เชื่อล่มไม่เป็นท่า ชี้ในประชาธิปัตย์ยังเสียงแตก

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่โรงแรมเรดิสัน กรุงเทพ ถนนพระรามเก้า นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึง แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ตามเดิมการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีหลักการคือ แก้ไขกติกาให้มีความยุติธรรม เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งปัญหาหลักก็คือ การยุบพรรค เพราะการให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคการเมือง หรือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถยุบพรรคได้ แม้ว่าจะมีคนกระทำความผิดเพียงแค่คนเดียวก็สามารถยุบพรรคได้ ซึ่งก็เท่ากับให้อำนาจ กกต.กับศาลรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงรัฐบาลได้ จึงทำให้ทั้ง 2 องค์กร มีอำนาจเหนือประชาชนส่วนใหญ่ แต่เมื่อคณะกรรมการชุดของ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เสนอแก้ไข 6 ประเด็น และ ครม.กลับตัดเรื่องการยุบพรรคออก แม้จะเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่ควรเสนอแก้ไข แต่การแก้ไขเหล่านี้ ก็ไม่ได้ทำให้หลักของกติกายุติธรรมก่อนการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า การเสนอแก้ไขเพียง 2 ประเด็น

ในเรื่องของการทำสัญญากับต่างประเทศ และเรื่องระบบเลือกตั้ง ล้วนเป็นข้อดีที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ ปี 40 ซึ่งการเสนอ 2 ประเด็นนี้ เพียงเพื่อที่จะเอาใจพรรคร่วมรัฐบาล หรืออาจจะต้องการให้เห็นว่าตั้งกรรมการขึ้นมาแล้วไม่สูญเปล่า แต่ที่น่าสนใจคือ ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาคัดค้านกันเต็มไปหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอำนาจการตัดสินใจของนายกฯ ไม่มี เพราะที่เสนอออกมาก็เป็นเพียงการทำให้ภาพดูดี แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีทางแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนหลักไม่เอาด้วย

“ผมเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนการเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้น และขณะนี้ การเลือกตั้งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลของคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ หรือการครบวาระก็อีกไม่นาน ดังนั้น แนวทางที่ควรดำเนินการคือ ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งใหม่ปลุกระดมทำความเข้าใจกับประชาชน แล้วมาดูการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งระบบ ทั้งนี้ การคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจอาจจะทำให้ความขัดแย้งลดระดับผ่อนคลายลงไปได้ แต่หากมีการเลือกตั้งด้วยกติกาที่ไม่เป็นธรรม และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกยุบ แต่เป็นพรรคอื่นกลับถูกยุบ หากยังเป็น 2 มาตรฐานเช่นนี้ ก็ทำให้แรงกดดันกับประชาชนมีมากยิ่งขึ้น แล้วจะก่อให้เกิดวิกฤตความขัดแย้งสูงขึ้นด้วย” นายจาตุรนต์ กล่าว.