นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าว พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เดินหน้าแผนปรองดอง
โดยหารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ นอกรอบ เพื่อยื่นเงื่อนไขในการดึงส.ส.จากพรรคชาติไทยพัฒนามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งสมัยหน้า หากทำสำเร็จ พล.ต.สนั่นจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีว่า การพบกันของพล.ต.สนั่น กับพ.ต.ท.ทักษิณได้พบกันจริง แต่เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียง15นาที ซึ่งเป็นการพบกันโดยบังเอิญ การที่จะพูดถึงการจัดรัฐบาลนั้นเร็วเกินไป จึงคาดว่าในการพบกัน ไม่ได้มีการพูดเรื่องดังกล่าวแน่นอน น่าจะพูดเกี่ยวกับเรื่องการปรองดอง ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณก็เห็นด้วยในแนวทางนี้อยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นการยื่นเงื่อนไขดังกล่าว ต้องไปถามพล.ต.สนั่น และส่วนตัวมองว่าข่าวนี้ อาจมีบางคนที่ไม่หวังดีไม่ต้องการให้เกิดการปรองดองเกิดขึ้น ต้องการทำลายเจตนาที่หวังดีของพล.ต.สนั่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อถามว่า หากมีการพูดคุยกันจริง คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะยอมในการจัดตั้งรัฐบาลแล้วจะให้พล.ต.สนั่น เป็นนายกฯหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า
พล.ต.สนั่นเป็นนักการเมืองอาวุโส แต่พรรคเพื่อไทยเองก็มีระบบมีบุคลากรที่มีคุณภาพมากมาย จึงต้องสนับสนุนคนในพรรคเป็นนายกฯ หลังการเลือกตั้งมากกว่าสนับสนุนคนอื่น เพราะหากไปสนับสนุนคนอื่น ทั้งที่ในการไปหาเสียงเลือกตั้ง ทำงานให้พรรคเพื่อไทย ประชาชนก็คงไม่สนับสนุน อีกทั้งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ขาดแคลนบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ เชื่อมั่นว่าจะหาบุคคลเป็นนายกฯได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพรรคการเมืองอื่น
นายนพดล กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าแนวทางในการปรองดอง มองว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความจริงใจในการปรองดอง แม้ว่าทำท่ากระตืนรือร้นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการแก้ไขเพียง 2 ประเด็น ซึ่งไม่สอดคล้องกับโรดแมป 5 ข้อ ซึ่งจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขให้รวดเร็วและตรงประเด็นกว่านี้จึงน่าจะเรียกเป็น ลวงแม็ป หรือปาหี่ระดับชาติ ที่สิ้นเปลืองภาษีของประชาชน แล้วการปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ตราบที่ยังมีการไล่ล่าคนเสื้อแดง จึงเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ยาก