สาทิตย์ป้องมาร์คนั่งซาเล้งเพราะทางยาว ยันเดินลุยน้ำหลายพื้นที่

         ที่สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 4 พ.ย.  นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการอำนวยการ กำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้สบอุทกภัย (คชอ.) ตอบกระทู้ถามสดเรื่อง น้ำท่วมประชาชนเดือดร้อน ของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ถาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดย ชี้แจงว่า  สถานการณ์น้ำท่วมเดิมมี 29 จังหวัด เดือดร้อน 2 ล้านคน ต่อมามีสถานการณ์ที่ภาคใต้มาเพิ่ม แต่รัฐบาลไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ได้ 2 มาตรฐาน สถานการณ์น้ำท่วมก่อนวันที่ 10 ตุลาคม นายกฯก็เดินทางไปตรวจที่เพชรบุรีและภาคกลางก่อนแล้ว พอมาท่วมที่นครราชสีมา วันที่ 28 ตุลาคม ก็ไป จากนั้นก็ไปลพบุรี อยุธยา ชัยภูมิ นนทบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง หาดใหญ่ อุบลราชธานี วันนี้ก็ไปนครราชสีมา ส่วนวันที่ 5 และ 6 พฤศจิกายน ก็จะไปตรวจ ส่วนเสียงวิจารณ์ตัวนายกฯนั่งซาเล้ง จริงๆแล้วนายกฯก็มีเดินลุยน้ำหลายที่ เพียงแต่ที่นั่งซาเล้ง หรือเรือ เพราะทางยาวมาก และประชาชนต้องการพบทั้งหมด ดังนั้นคงไม่ใช่เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ นายกฯผ่านการมาเลือกตั้ง รู้ว่า ต้องเดินหาประชาชน ซึ่งทำอยู่ปกติ 

นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันว่า ได้บูรณาการกระทรวง องค์กรอิสระ เอกชน ภาคประชาชน ทหาร 3 เหล่าทัพ โดยนายกฯพูดในครม.ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์ให้เตรียมพร้อม พอเกิดเหตุ ก็ให้ให้ตั้งศูนย์ที่ศาลากลางจังหวัด มีการประสานอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตั้งกรรมการพิเศษขึ้นมา แสดงถึงการช่วยเหลือเป็นระบบ และมีการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อป้องกันหากเกิดเหตุในอนาคต รัฐมนตรีทุกคนก็ทำงานหนัก แยกย้ายกันลงทุกพื้นที่

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนพนังกั้นน้ำในที่ลุ่ม เป็นส่วนการฟื้นฟูบูรณะ ซึ่งกลไกภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน จะช่วยกันคิดในจังหวัด และเสนอมา ซึ่งรัฐบาลก็ช่วยเหลือให้เป็นไปตามนั้น ถ้าที่ใดต้องการพนังกั้นน้ำ ก็จะจัดให้ ส่วนงบที่ใช้ นอกจากงบกลาง ยังมีการปรับงบปกติของทุกกระทรวง มาฟื้นฟูดูแล งบไทยเข้มแข็งก็ต้องปรับมาช่วยฟื้นฟู เฉพาะงบการฟื้นฟู เบื้องต้นงบกลางตั้งไว้ น่าจะใช้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนเฉพาะงบเยียวยาเบื้องต้นที่จะจ่าย 5,000 บาทต่อครอบครัว เดิมคำนวณ 6 แสนครอบครัว ตอนนี้คงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรื่องหลักเกณฑ์ ไม่ได้ตั้งไว้แค่พื้นที่ที่ท่วมเกิน 7 วัน แต่ พื้นที่ใดน้ำท่วมฉับพลันทันทีจนเกิดความเสียหาย ก็เข้าเกณฑ์ ยืนยันว่า มีงบพร้อมจ่ายทุกที่ กระทรวงการคลังพร้อมดูแลเรื่องนี้ และเร่งรัดการจ่าย และยังมีมาตรการอื่นอีก

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาการทุจริต ที่ใดก็ตามที่ทุจริตน้ำท่วม เป็นการซ้ำเติมความทุกข์ยาก คชอ.ได้ประสานหน่วยงานตรวจสอบทุจริต ซึ่งได้ให้ข้อมูลการช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆไปแล้ว และให้หน่วยงานไปติดตามตรวจสอบ และจะมีเวบไซต์แจ้งการใช้เงิน ส่วนเรื่องถุงยังชีพที่บอกว่าใครไม่มาไม่ได้ ขอให้ช่วยแจ้งมา และ คชอ.จะส่งหน่วยเข้าไปดูแล ทั้งนี้ เฉพาะกรมป้องกันสาธารณภัย(ปภ.) ส่งถุงยังชีพไปแล้ว 1 ล้านกว่าชุด น้ำดื่ม เกือบ 1 ล้าน ขวด ยามากกกว่า 70,000 ชุด และส้วม   

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า เรื่องชดเชยพืชผล กระทรวงเกษตรฯเสนอปรับวงเงินขึ้นแล้ว เมื่อน้ำลดก็จะสำรวจประเมินพืชผลในภาคอีสาน และภาคกลาง ส่วนพื้นที่น้ำท่วมขังยาวนาน รัฐบาลกังวล ก็กำลังวางแผนช่วยเหลือกรณีพิเศษ ส่วนภาคใต้ มีดีเปรสชั่น ลมแรงทำให้ยางพาราโค่นล้ม ก็ต้องไปช่วยเหลือเยียวยาซึ่งกำลงติดตามอยู่ ยืนยันว่า ขอให้มั่นใจในการที่รัฐบาลเป็นผู้ประสานทุกหน่วยงาน

ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า รัฐบาล ส.ส.และคนไทยทุกคนต้องร่วมมือช่วยกัน โดยหลังสถานการณ์กลับสู่ปกติ ในส่วนกระทรวงมหาดไทย มีศูนย์ระดับจังหวัดและอำเภอ มีการบูรณาการหัวหน้าส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตรวจสอบความเดือดร้อนประชาชน แต่ก็ย่อมมีการตกหล่นบ้าง แต่ก็มีการประชุมเป็นประจำว่า จุดใดยังได้รับการช่วยเหลือไม่เพียงพอ ส.ส.ยังสามารถช่วยตั้งศูนย์ประสานงานสอบสวนทุจริต หรือหมู่บ้านใดยังตกหล่น หรือพืชผลเสียหายแต่ยังตกสำรวจ ขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อให้ทุกข์ประชาชนผ่านไปได้