กลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ทำลายศาลรัฐธรรมนูญแทบไม่เหลือซาก(ในด้านความน่าเชือถือ) เมื่อคลิปฉาวภาค 2 ชุด "พฤติกรรมศาลรัฐธรรมนูญไทย ตอนที่ 1-3"ถูกผู้ที่ใช้ชื่อว่า "ohmygod3009" แพร่คลิปดังกล่าวลงในYoutube เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม
เนื้อหาในคลิปชุดนี้ แม้มิได้เกี่ยวกับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์โดยตรงเหมือนกับคลิปฉาวภาคแรกที่ถูกแพร่ในYoutube เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา
แต่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางส่วนที่อ้างว่า ช่วยเหลือพรรคพวกและญาติพี่น้องตัวเองในการสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญซึ่งแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีโดยตรง
แต่ถ้าสาธารณชนเชื่อว่า พฤติกรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางส่วนเป็นจริง(ตามเสียงในคลิป)ก็ทำให้ประชาชนหมดความเชื่อถือในศาลรัฐธรรมนูญด้วยเพราะแสดงให้เห็นว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขาดจริยธรรมและความเที่ยงธรรมและสามารถถึงขั้นยอมทุจริตเพื่อให้คนใกล้ชิดสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้
ดังนั้นในการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีผลประโยชน์ทางการเมืองและผลประโยชน์อื่นๆขนาดใหญ่ จะทำให้การตัดสินคดีเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมได้อย่างไร
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องแยกประเด็นออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก มีพฤติการณ์ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่อว่า จะทุจริตการสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
จากข้อเท็จจริง(ตามเสียงในคลิป)และจากเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สามารถลำดับเหตุการณ์ได้ว่า ในการสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเมื่อต้นปี 2552 มีการนัดหารือระหว่างตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนกับคนชื่อ "ปอย"หรือ"พสิษฐ์" ในห้องผู้บริหารศาลรัฐธรรมนูญรายหนึ่งเพื่อนำเอกสารที่อ้างว่า เป็นข้อสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ไปให้กับคนใกล้ชิดของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคน
ในการหารือครั้งนี้ "ปอย"อ้างว่า ผู้บริหารศาลเจ้าของห้องได้แอบอัดคลิปการหารือไว้โดยมีวัตถุประสงค์ในการต่อรองเรื่องตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญที่มีกระแสข่าวว่า นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ รับปากว่า จะอยู่ในตำแหน่ง 3 ปี แต่คลิปดังกล่าวหลุดไปอยู่ในพรรคเพื่อไทยตามคำกล่าวของ"ปอย"
แต่ไม่มีใครรู้คลิปชุดที่มีการหารือเรื่องการนำข้อสอบไปให้บุคคลใกล้ชิดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนมีจริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีการแพร่คลิปชุดดังกล่าวออกมา นอกจากคำกล่าวอ้างของ"ปอย"เท่านั้น ประกอบกับพรรคเพื่อไทยแถลงขู่ว่า จะนำคลิปดังกล่าวมาเปิดโปงของพรรคเพื่อไท
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าไปหารือในห้องผู้บริหารศาล หวาดผวา "ปอย"จึงนัดหารือเพื่อแก้ไขปัญหาในห้องทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายหนึ่ง โดยมีตุลาการเข้าร่วม 2 คน
ในการหารือ "ปอย"ใช้วิธีการที่ตนเองถนัดหลอกล่อ และพูดนำให้คู่สนทนาตกหลุมยอมรับว่า มีพฤติการณ์ที่ส่อจะโกงข้อสอบจริง เช่น "อุดมศักดิ์" จะเป็นเปาบุ้นจิ้นก็เรื่องของมัน เราจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรฯลฯ จากนั้นเสียงตุลาการคนหนึ่งพูดวางแผนแก้เกมเป็นฉากๆ
จากนั้น"ปอย"ก็จะแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานเพื่อเล่นงานตุลาการที่ตกหลุมซึ่งเท่าที่ประมวลดูพบว่า มีตุลาการในศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างน้อย 4 รายที่อ้างว่า เอาข้อสอบไปให้บุคใกล้ชิดใกล้ชิด 3 ราย และผู้บริหารศาลที่"ปอยอ้างว่า แอบถ่ายคลิปในการหารือครั้งแรก
ที่ชื่อ"อดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุดหนึ่งที่"ปอย"อ้างว่า ฝากเด็กรวมทั้งลูกตัวเอง(เคยเป็นเลขานุการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายหนึ่ง)เข้าสอบถึง 3 คน
เสียงในคลิปที่มีการสนทนากัน ทำให้เชื่อว่า ตุลาการบางคนที่มีพฤติการณ์ส่อว่า อาจมีการโกงข้อสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจริง ดังนั้นจึงตกหลุมถูก"แบล็กเมล์"ได้โดยง่าย
ส่วนที่สอง เชื่อว่า การเผยแพร่คลิปชุดที่ 2 กับคลิปชุดแรก เป็นฝีมือของบุคคลกลุ่มเดียวกัน ซึ่งน่าจะมีนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญกับ"ปอย"เข้ามาเกี่ยวข้อง และน่าจะเป็น"ผู้กำกับการแสดง"ทั้งหมดด้วย
แม้ว่า วัตถุประสงค์ในการถ่ายคลิปชุดที่สอง เพื่อใช้ในการต่อรองเรื่องตำแหน่งประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการทำลายคู่แข่ง แต่ในที่สุดคลิปชุดนี้กลายเป็นเครื่องมือในทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้านในคดียุบพรรค
ยังไม่มีใครบอกได้ว่า ทำไมและอะไรเป็นสาเหตุสำคัญของการแปรพักตร์(บางคนบอกว่า เป็นไส้ศึก หรือเป็นเรื่องของ 18มงกุฏ) หรือทำไมจึงมีการรับงานมาทำลายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนที่มีแผลอยู่แล้ว และส่งผลสะเทือนต่อศษลรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง
นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์และ"ปอย"เท่านั้นที่ตอบได้
อย่างไรก็ตาม น่าแปลกที่นายชัช ชลวร ซึ่งเป็นคนชักนำนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ เข้ามาในศาลรัฐธรรมนูญและทำลายศาลรัฐธรรมนูญอย่างย่อยยับ กลับไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆเลย
ปรากฏการณ์"ฝนตกขี้หมูไหล"?จึงเกิดขึ้นและยากที่จะชะล้างให้สะอาดได้
เพราะไม่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดียุบพรรคออกมาในรูปใดก็ล้วนไม่ได้รับความเชื่อถือ แม้ว่า มีตุลาการ 2 คนถอนตัวจากการพิจารณาคดีไปก่อนหน้านี้แล้วคือ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ และนายเฉลิมพล เอกอุรุ
ขณะที่มีตุลาการบางคนไม่ได้เกี่ยวข้องกับ"คลิปปฉาว" แต่ก็ไม่สามารถเรียกความน่าเชื่อถือกลับมาได้
ทางเดียวที่เห็นว่า น่าจะช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นคือ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญควรแสดงสปิริตร่วมกันลาออกยกชุด เพื่อเปิดทางให้มีการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดใหม่เข้ามาพิจารณาคดีและสะสางปมปัญหาที่เกิดขึ้นทั้หมด