วานนี้ (31ต.ค.) ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงมาตรการเพิ่มเติมในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ในวันที่ 1 พ.ย. ว่า ในการประชุมดังกล่าว ตนจะดูในเรื่องของความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งขณะนี้คณะทำงานได้มีแนวทางที่จะเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือตามเกณฑ์ปกติ เพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่า การเพิ่มมาตรการของความเสียหายกับผู้ประกอบการเพื่อจะเป็นการช่วยฟื้นฟูเรื่องของการค้าขายและเศรษฐกิจในชุมชนหรือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากขึ้น นอกจากนั้นก็จะเร่งดูในเรื่องของกลไกของการที่จะจ่ายเงินออกไปจากมาตรการที่ ครม.อนุมัติไปแล้ว
“มันเป็นไปไม่ได้ที่เงินทุกรายงานจะมาจากงบกลางเพราะงบกลางเองก็มีจำนวนจำกัด ดังนั้นจะต้องมีการดำเนินการปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานราชการต่างๆตามปกติด้วย”
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการปรับในส่วนของโครงกรไทยเข้มแข็งที่เคยกำหนดไว้ก่อนหรือไม่
นายกฯ กล่าวว่า น่าจะต้องไปดูทั้งสองส่วน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน เช่น ถนนที่ต้องฟื้นฟูอาจต้องเอามาแทนโครงการที่คิดว่าจะทำในงบประมาณปี 2554 ในโครงการไทยเข้มแข็ง แต่วงเงินก็มีความจำเป็นต้องปรับโยกมา ส่วนจะถึงขั้นชะลอโครงการการลงทุนขนาดใหญ่หรือไม่นั้น ความจริงเราไม่ได้มีโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ที่เป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่การลงทุนขนาดใหญ่ขณะนี้เรามุ่งไปที่การมีส่วนร่วมของเอกชนมากกว่า เมื่อถามว่าแนวทางการปรับเพิ่มเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวจากไร่ละ 606 บาท เป็น 1,800 บาท นั้น เป็นไปได้แค่ไหน นายก ฯกล่าวว่า มีการประมาณการไว้ตามนั้น แต่จะพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง ขึ้นอยู่กับตัวพืชที่เสียหาย อย่างไรก็ตาม กรณีผลผลิตข้าวที่เสียหายอาจสูงถึง 3.5 ล้านตันนั้น ในแง่ของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่ถึงขั้นที่ต้องนำข้าวเข้าประเทศแต่จะกระทบกับการส่งออกแค่ไหนก็ต้องดู
เมื่อถามว่าสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ยอดการฟื้นฟูอาจมากกว่า 3 หมื่นล้านบาทใช่หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยดีขึ้นมาโดยลำดับจนมีบางหน่วยงานคิดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 8 แต่ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้มีผลส่งลงมาประมาณร้อย 0.3 สำหรับยอดในการฟื้นฟูหลังการประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันที่ 1 พ.ย. จะเห็นชัดเจนขึ้น แต่ถ้าเราคิดง่ายๆว่าเฉพาะที่เราชดเชยครัวเรือนละ 5,000 บาท จำนวนครัวเรือนที่ได้รับก็อาจเป็นหลักล้าน พื้นที่การเกษตร ถ้าตีคร่าวๆ จ่ายไร่ละ 2,000 บาท ขณะนี้ความเสียหายก็อยู่ที่หลายพันไร่ แต่การประเมินในขณะนี้ยังไม่ตรงกันระหว่าง ก.พ.กับทางกระทรวงเกษตร อย่างไรก็ตาม เรื่องเงินชดเชยนั้นยืนยันได้เลยว่าจะเป็นการจ่ายเงินที่ถึงมือประชาชนเร็วที่สุด คิดว่าภายใน 1 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
