นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีคลิปลับล่าสุดเรื่องปกปิดการทุจริตสอบเข้าเป็นพนังานศาลรัฐธรรมนูญ คือหลักฐานที่ทำให้เห็นว่า นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญคือ ผู้กำกับ ผู้ถ่ายทำ และผู้แสดงคลิปลับทั้งหมด จึงน่าตั้งข้อสงสัยว่า ผลประโยชน์ก้อนใหญ่ขนาดไหนที่ทำให้นายพสิษฐ์ทำลายอนาคตของตนเอง ทำลายผู้มีพระคุณ และทำลายสถาบันของตนเองจนย่อยยับ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งล่าตัวนายพสิษฐ์ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด รวมทั้งหาหลักฐานการเชื่อมโยงระหว่างนายพสิษฐ์กับผู้ว่าจ้าง อย่างไรก็ดี ศาลรัฐธรรมนูญได้ก้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงเป็นหน้าที่ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างตรงไปตรงมาต่อสาธารณชน และต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างเหมาะสมต่อวิกฤติศรัทธาที่เกิดขึ้น
“ผมขอตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บุคคลหรือสถาบันใดที่ระบบทักษิณมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามจะถูกกระบวนการที่เรียกว่า แก้ว 3 ประการพยายามโค่นล้มทำลายในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันองคมนตรี สถาบันทหาร สถาบันเบื้องสูง สถาบันศาลรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงสถาบันชาติ ที่มีการว่าจ้างนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมทำลายภาพลักษณ์อยู่ในขณะนี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้น สิ่งที่ทำลายระบบทักษิณลง ไม่ใช่สถาบันใดๆเลย แต่คือ ความกระหายในอำนาจและผลประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงขอเตือนว่า ถ้าระบบทักษิณยังคงดำรงอยู่ ก็ไม่รู้ว่า ประเทศชาติจะหลงเหลือสถาบันหลักสักกี่แห่งที่รอดพ้นจากการถูกทำลายให้ย่อยยับ”นายอรรถพร กล่าว
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่ทนายความของเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไปยื่นฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 4 คน ล้วนเป็นการกระทำของขบวนการเหล่านี้แต่ฝ่ายเดียว ขณะที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะออกมาตอบโต้หรือชี้แจงข้อเท็จจริงเหมือนกับองค์กรอื่น จึงเสียเปรียบในเรื่องการชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมทราบ และอาจเกิดความเข้าใจผิดและสับสนของประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวถามกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) สนับสนุนให้มีการจับกุมส่งตัวนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการส่วนตัวประธานศาลรัฐธรรมนูญที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการแอบถ่ายคลิป นายเทพไทกล่าวว่า ขอให้เป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่เรียกร้องเพื่อแก้เกี้ยวและสร้างภาพว่าไม่เกี่ยวข้องให้กับพรรคตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์
"มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง มีกลุ่มนายทุนสนับสนุนขบวนการสร้างคลิปนี้ คนของพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีความสามารถที่จะทำเรื่องในลักษณะนี้ได้ สังคมย่อมรู้ดีว่าคนมีเงินเท่านั้น ที่จะจ้างวานให้ทำเช่นนี้ได้ อยากเตือนคนของพรรคเพื่อไทยและนายพสิษฐ์ว่า ขอให้ระวังวิธีการตัดตอนจากพวกเดียวกันเองด้วย เพราะในอดีตเคยชินกับการใช้วิธีการแบบนี้มาโดยตลอด เหมือนกับคดีการฆ่าปิดปากชิปปิ้งหมู ที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ ก็ยังหาคนที่ทำผิดไม่ได้" นายเทพไทกล่าว
เชื่อคลิปฉาวอยู่ในมือพท.ก่อนแล้ว
นายเทพไทกล่าวว่า คลิปที่เกิดขึ้นมีนายพสิษฐ์เป็นตัวการสำคัญ เป็นกุญแจไขปริศนา และที่บินหนีไปอยู่ฮ่องกง เพราะรู้ดีว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอิทธิพล หรือจะไปซุกใต้ปีกเพื่อขอรับความคุ้มครองจากใครบางคนได้ การเดินทางไปฮ่องกงของนายพสิษฐ์ในวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา คาดว่าคงใช้เวลาต่อรองเตรียมการปล่อยคลิปฉาวชุดนี้อยู่ราว 2 วัน และสอดคล้องกับข้อมูลที่พรรค พท.ออกมาตีปี๊บสร้างกระแสเพื่อเปิดคลิปฉาวในวันที่ 15 ตุลาคม โดยนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวยืนยันว่ามีคลิปฉาวนี้จริงในเวลา 10.00 น. และมีการเผยแพร่คลิปทั้ง 5 ตอนใน
เวลา 22.00 น. ของวันเดียวกัน สอดรับกับข้อมูลเบื้องต้นว่า คลิปดังกล่าวมีการโพสท์มาจากฮ่องกง
"น่าจะเข้าใจได้ว่า เป็นการประสานงานระหว่างคนในประเทศไทย กับคนที่อยู่ฮ่องกงตลอดเวลา เมื่อมีการตกลงเงื่อนไขกันได้ จึงเผยแพร่คลิปออกสู่สาธารณชนอย่างเป็นระบบ จนวันที่ 17 ตุลาคม นายพร้อมพงศ์จึงอ้างว่าได้คลิปชุดนี้จากเว็บไซต์ยูทูบ และนำออกโชว์กับสื่อ คลิปชุดนี้น่าจะอยู่ในมือของคนพรรคพื่อไทยก่อนหน้านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนายพร้อมพงศ์คงไม่กล้าพูดล่วงหน้าว่า ตัวละครในคลิปมีคนชื่อย่ออักษร ว. และ พ. ก่อนหน้าวันที่ 15 ตุลาคม" นายเทพไทกล่าว