โฆษกมาร์ค"ชี้ถอนพาสปอร์ตแกนนำนปช.เป็นแนวเดียวกับถอนพาสปอร์ต"แม้ว" ไล่ส่งไปเป็นพลเมืองมอนเตรเนโกร หรือนิคารากัว แขวะตู่มีคุณค่าต่อประเทศเท่ากับศูนย์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 17 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ถึงผลการหารือทวิภาคีกับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อค่ำวันที่ 28 ตุลาคมว่า เป็นการรับทราบความก้าวหน้าหลังจากการพบปะกัน 2 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีความก้าวหน้าในทุกด้าน นอกจากนี้ได้มีการพูดคุยถึงกรณีกระแสข่าวที่ว่านายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย หลบหนีอยู่ในกัมพูชา ซึ่งสมเด็จฯฮุน เซน ยืนยันว่า พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการส่งตัวมาดำเนินคดี หากได้รับข้อมูลจากการประสานงานจากหน่วยงานของรัฐบาลไทย ทั้งนี้การพูดคุยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยการประสานงานภายในเนื่องจากการเปิดเผยไม่ส่งผลดี
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทางของแกนนำคนเสื้อแดงที่ถูกออกหมายจับว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้การสนับสนุน เพราะความเป็นจริงกระทรวงการต่างประเทศควรจะใช้มาตรการดังกล่าวกับกลุ่มคนเหล่านี้ตั้งแต่ตอนแรกที่มีหมายจับกุมในฐานะผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย เพราะเป็นคดีที่มีโทษทางอาญาสูง แต่เข้าใจว่าในขณะนั้นสถานการณ์ทางการเมืองกำลังร้อนแรงอยู่จึงไม่อยากจะให้แกนนำบางคนหยิบฉวยขึ้นมาเป็นประเด็นทางการเมืองในการเคลื่อนไหว
"การยกเลิกพาสปอร์ตของผู้ต้องหาเหล่านี้เปรียบเหมือนว่า คนเหล่านี้ไม่มีการรับรองการเดินทางจากรัฐบาลไทย มีความหมายเหมือนกับไม่มีการรับรองว่าเป็นคนไทยที่ถูกต้องตามกฎหมาย คงจะเป็นแนวปฏิบัติเดียวกันกับการยกเลิกพาสปอร์ตของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนหน้านี้ จากนี้ไปกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในฐานะที่เป็นคนไทยถือพาสปอร์ตไทย จะต้องใช้วิธีการเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณคือ ต้องไปเป็นพลเมืองของประเทศมอนเตรเนโกร หรือประเทศนิคารากัว แต่ไม่แน่ใจว่าประเทศเหล่านี้จะยอมรับคนหนีคุกหนีคดีเป็นพลเมืองของตัวเองหรือไม่"นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดงออกมาแก้เกี้ยวว่าการยกเลิกพาสปอร์ตครั้งนี้ไม่มีผลใดๆ มีค่าเท่ากับศูนย์นั้น เป็นความคิดที่ถูกต้องแล้ว เพราะคุณค่าของคนเหล่านี้ที่มีต่อประเทศไทยก็มีค่าเท่ากับศูนย์จริงๆ แต่จะมีความหมายต่อประเทศคือ จะทำให้คนเหล่านี้เคลื่อนไหวทำร้ายประเทศตัวเองได้ยากยิ่งขึ้น และจะเป็นการขีดวงให้กลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่จำกัด
แดงรำลึก"นวมทอง"31ต.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 16.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมรำลึก 4 ปี "นวมทอง ไพรวัลย์" คนขับรถแท๊กซี่ที่ขัยรถชนรถถังต่อต้านรัฐประหาร 19 กันยา 2549 ที่บริเวณสะพานลอยหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต จุดที่นายนวมทอ งแขวนคอตายยืนยันอุดมการณ์ต่อต้านรัฐประหาร นอกจากนี้ จะจัดกิจกรรมที่บริเวณตรงข้ามอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ โดยขอเชิญผู้ร่วมงานแต่งผี 91 ศพร่วมกิจกรรม เนื่องจากบังเอิญตรงกับวันฮัลโลวีน ส่วนที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม อาสาสมัครเสื้อแดงจะร่วมกันปั่นจักรยานโครงการ "เส้นทางสีแดง"จากหน้าเรือนจำไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำกำลังใจและความช่วยเหลือสู่พี่น้องเสื้อแดงอีสาน 18 จังหวัด 1,700 กิโลเมตร เป็นเวลา 1 เดือน ขณะเดียวกัน นายคอนเนอร์ เพอร์เซล ชาวออสเตรเลีย ที่ติดคุกในไทย เพราะขึ้นปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงที่ผ่านมา จะร่วมกับพี่น้องเสื้อแดงซิดนีย์ ไปประท้วงหน้าสถานทูตไทยประจำออสเตรเลียในวันเดียวกัน
นายจีรโรจน์ กีรติศักดิ์วรกุล ผู้ประสานงานสภาแดงล้านนา จ.พะเยา กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นเทศกาลประเพณีสลากภัตต์ของทางภาคเหนือ ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงพะเยาถือโอกาสประเพณีงานบุญครั้งนี้ ร่วมทำเครื่องไทยทานเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ซึ่งเป็นบุคคลที่ชาวเสื้อแดงรักและคิดถึงมากคนหนึ่ง ในวันที่ 31 ตุลาคม ที่วัดแม่ต๋ำอินทร์ฐาน ต.แม่ต๋ำ อ.เมือง และ วันที่ 6 พฤศจิกายน ที่วัดป่าลานคำ อ.เมือง โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00น. เป็นต้นไป บริเวณสี่แยกแม่ต๋ำ มีการตั้งขบวนเพื่อรอเวลานำเครื่องไทยทานไปถวายที่วัดตามกำหนดได้นัดหมายไว้อย่างพร้อมเพรียงกัน อย่างไรก้ตาม กิจกรรมดังกล่าวเป็นประเพณีทางภาคเหนือที่มีการสืบทอดมาช้านาน ไม่เพียงแต่กลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น หากประชาชนทั่วไปต้องการมาร่วมทำบุญก็ยินดี รวมทั้งได้ประสานเสื้อแดงหลายจังหวัดของภาคเหนือที่ต้องการร่วมงานบุญและพบปะสังสรรค์อย่างสนุกสนาน ยืนยันว่างานนี้ปลอดการเมืองมีแต่งานบุญ
การประชาสัมพันธ์ ผมได้ประสานสถานีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงทุกคลื่นประชาสัมพันธ์แจ้งเพื่อนสมาชิกแนวร่วมมาทำบุญด้วยกัน พร้อมแจ้งข้อมูลไปยังเว็บไซต์ไทย-เยอรมัน แจ้งไปพี่น้องเสื้อแดงทั้งในและต่างประเทศ สำหรับน้องเดียร์ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ลูกสาวของเสธ.แดงทางเราต้องการติดต่อให้มาร่วมกิจกรรม แต่ไม่สามารถติดต่อส่วนตัวได้ หากน้องเดียร์รับทราบข่าวจัดกิจกรรมของเสื้อแดงทางภาคเหนือแล้ว ยินดีให้มาร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจคนเสื้อแดงด้วย นายจีรโรจน์ กล่าว
เสื้อแดงมือระเบิดห้างบิ๊กซีปฏิเสธสู้คดี
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 29 ตุลาคม ศาลอาญารัชดาภิเษกสอบคำให้การจำเลยคดีดำ อ.3543/ 2553 ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรร วรปิติเจริญกุล อายุ 37 ปี อาชีพรับจ้าง ชาว กทม.ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ พ.ร.บ.อาวุธปืน
กรณีเมื่อระหว่างปลายเดือนเมษายน-14 พฤษภาคม 2553 จำเลยกับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนี ได้ร่วมกันมีวัตถุระเบิดลักษณะเป็นขวดเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อต่างๆบรรจุน้ำมันเบนซินผูกติดกับลูกพลาสติกสลับสีและดินดำ หุ้มด้วยเทปพันสายไฟ รวม 51 ขวด ,ถังดับเพลิงรรจุปุ๋ยยูเรีย และฝักแคระเบิดสีขาว กับเชื้อประทุสภาพใช้งานได้จำนวน 4 ถัง วงจรระเบิดทำด้วยโทรศัพท์มือถือ สวิตช์เปิดปิด แบตเตอรี่ ขนาด 9 โวลท์ 7 เครื่อง ซึ่งมีลักษณะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ,เครื่องจุดระบิดแบบ M 60 จำนวน 3 เครื่อง มีใช้ในราชการทหาร - ตำรวจ ลูกระเบิดยิงขนาด 40 ม.ม. แบบเอ็ม 79 ชนิดระเบิดลูกปราย 1 นัด กระสุนปืนขนาด .45 รวม 20 นัด และอื่น ๆ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังและสอบถามปรากฏว่าจำเลยแถลงปฏิเสธ และจัดเตรียมทนายความแก้ต่างคดีแล้ว จึงนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 27 ธันวาคมนี้ เวลา 09.00 น.