วสันต์ส่อถอดใจเบื่อนั่งตุลาการศาล

"วสันต์" ส่อถอดใจ บ่นเซ็งนั่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เงินเดือนน้อยกว่าผู้พิพากษาปกติ โดนวิจารณ์เพียบ-เรื่องเยอะ เผยเพื่อนตัวดียุให้มารับตำแหน่ง ปล่อยเลขาฯศาลฯเดินเรื่องแจ้งความเอาผิดคนก่อเรื่อง ตร.หาหลักฐานแกะรอยตัดต่อเนื้อหาในคลิป ประสานไอซีทีบล็อกมือโพสต์เผยแพร่ต่อ “เด็จพี่” แฉล่า “พสิษฐ์” แผนจอมปลอม หวังตัดตอนไม่ให้กลับเมืองไทย 

“จำลอง”ปลุกพธม.คืนชีพ ระดมพลกดดันรัฐบาลแก้ปัญหาพระวิหาร “สนธิ” นัด 2 พ.ย.เจอหน้ารัฐสภา น้ำลดระเบิดโผล่ เจอ “ไดนาไมต์” ที่ “ชัยภูมิ” มัดรวมหลายแท่งวางดักเส้นทาง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม โชคดีระเบิดชื้นไม่บึ้ม “จตุพร” สับแหลก คุมพาสปอร์ตแกนนำ นปช. ไร้ประโยชน์ เผยเสื้อแดงอียูรับไม้ต่อหลังยื่นหนังสือถึง “บัน คี มูน” บก.ลายจุดนัดรวมพลปั่นจักรยานวันอาทิตย์ช่วยนักโทษการเมือง “กลุ่มสะสมทรัพย์” ยันยังอยู่พท. รออนาคตชัดเจนค่อยตัดสินใจ ภท.ปัดยังไม่ทาบทามกลุ่มนครปฐม


ปชป.ยื่นคำแถลงปิดคดี
    
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายราเมศร รัตนะเชวง หนึ่งในทีมกฎหมายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับมอบหมายจาก นายชวน หลีกภัย หัวหน้าทีมสู้คดีฯ ได้นำเอกสารคำแถลงปิดคดีจำนวน 172 หน้า พร้อมสำเนาอีก 12 ชุด มายื่นต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งในคำแถลงปิดคดีได้ชี้แจงถึงประเด็นตามที่ศาลกำหนดไว้ครบถ้วน พรรคไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดของประเทศ และยึดมั่นความถูกต้องซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลักในการทำงาน 
     
อย่างไรก็ตาม ทางพรรคจะมีการแถลงในเรื่องของประเด็นเนื้อหาของคำแถลงปิดคดีให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งภายใน 1-2 วันนี้ นายชวน หัวหน้าทีมก็คงจะได้มีการประชุมเพื่อที่จะสรุปคำแถลงด้วยวาจาที่ต้องมาแถลงต่อศาลในวันที่ 29 พ.ย.  นี้ รวมทั้งกำหนดตัวบุคคลว่าใครจะเป็นผู้แถลงปิดคดี สำหรับการยื่นเอกสารคำแถลงปิดคดี คณะตุลาการได้กำหนดให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายใน 30 วัน ครบกำหนดในวันที่ 17 พ.ย.นี้ โดยขณะนี้ฝ่ายผู้ร้อง คือ นายทะเบียนพรรคการเมืองยังไม่มีการยื่นคำแถลงปิดคดีแต่อย่างใด

แกะรอยตัดต่อเนื้อหาคลิป
     
ขณะที่นายสนิท จรอนันต์ ประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการเผยแพร่ คลิปการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยภายหลังการประชุมนัดที่ 3 ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมที่ลงลึกในส่วนของรายละเอียดที่คณะกรรมการได้กำหนดไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดและความคืบหน้าได้ เพราะจะทำให้เสียรูปคดี โดยหลังจากนี้คาดว่าจะประชุมอีกสองครั้งและน่าจะได้ข้อสรุปตามกรอบเวลาที่ตุลาการกำหนดไว้คือ 15 วัน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการขยายเวลาสอบเพิ่มเติมแต่อย่างใด
    
ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนกรณีการเผยแพร่คลิปยุบพรรคประชาธิปัตย์ของศาลรัฐธรรมนูญว่า เบื้องต้นนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทราบว่าได้หลบหนีไปแล้ว โดยต้องดูว่าจะติดตามตัวและเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร ส่วนคนที่นำคลิปไปเผยแพร่ต่อนั้น ได้มอบหมายให้ทางกองบังคับการปราบปราม กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ไปสืบสวนสอบสวน และได้ทำหนังสือถึงกระทรวงไอซีทีเพื่อร้องต่อศาลให้บล็อกคลิปดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบดูว่าในส่วนของเนื้อหาจะมีการตัดต่อเนื้อหาเพื่อหวังผลอย่างใดหรือไม่ด้วย  
  
“วสันต์”บ่นเซ็งปัญหาโถม
     
นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตั้งบุตรและหลานนั่งเลขานุ การตุลาการซึ่งอาจมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและอาจสร้างความเสียหายว่า ต้องถามว่าถ้าไม่ให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตั้งคนที่ไว้วางใจได้มาทำหน้าที่เลขานุการ ผู้ช่วยเลขานุการที่ปรึกษาแล้วจะให้ตั้งคนที่ไม่ไว้วางใจมาทำหน้าที่ได้หรือ ส่วนกรณีที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความดำเนินคดีผู้ให้ข่าวผ่านทางสื่อถึงศาลได้รับใบสั่งไม่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นเรื่องของเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษโดยเร็วที่สุด เข้าใจว่าทางสำนักงานจะต้องแจ้งความต่อกองปราบปราม หรือไม่ก็ สน.ทุ่งสองห้อง ก็เป็นได้ 
     
นายวสันต์ ยังระบุว่า ส่วนกรณีที่ระบุถึงหนังสือพิมพ์รายวัน 3 ฉบับนั้นก็คงไม่ถึงขั้นที่สำนักงานจะฟ้องสื่อแต่เป็นเพื่อให้สำนักงานแจ้งให้ทางเจ้าพนักงานทราบเพราะมีผู้ให้ข่าวแล้วนำไปขยายความต่อทำให้เกิดความเสียหาย ไม่ใช่ศาลจะเล่นงานสื่อด้วยแต่อย่างใด แต่ก็ต้องเป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการ ส่วนเรื่องกระแสสังคมกดดัน ให้นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญแสดงความรับผิดชอบ ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวประธานศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวของตนเริ่มมีความรู้สึกเบื่อการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ตอบไม่ได้ว่าจะลาออกหรือไม่แต่เบื่อปัญหาที่เกิดขึ้น ตนมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเงินเดือนน้อยกว่าเป็นผู้พิพากษาอาวุโสเสียอีก แต่มาเป็นตุลาการศาลเพราะเพื่อนฝูงผลักดัน

ตัดตอน“พสิษฐ์”กลับไทย
    
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.ปัญญา ระบุว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน    ในการที่จะขอให้ทางการฮ่องกงส่งตัวนายพสิษฐ์ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อกลับมาดำ  เนินคดีในประเทศไทย เพราะการเผยแพร่คลิปภาพถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอม พิวเตอร์ว่า ตนมองว่าเป็นเรื่องดีและสนับสนุน เพราะนายพสิษฐ์ถือเป็นกุญแจสำคัญว่าการพบปะกับนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนองและทีมทนายต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีการวิ่งเต้นช่วยกันจริงหรือไม่ และตัวละครเบื้องหลังมีใครบ้าง สาธารณะจะได้รับทราบความจริงเสียที
    
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่าจะเป็นเพียงการสร้างกระแสเพื่อกลบเกลื่อนเนื้อหาในการพูดคุย และเป็นห่วงว่าผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังนายวิรัชและนายพสิษฐ์จะยอมให้เกิดการส่งตัวนายพสิษฐ์กลับไทยได้หรือไม่ โดยตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายแล้วอาจจะมีการยกเลิกพาสปอร์ตนายพสิษฐ์เพื่อให้อยู่เมืองนอกเพื่อตัดตอนความจริง ขณะเดียวกันตนอยากให้ตำรวจทบทวนการทำหน้าที่เสียใหม่ ไม่อยากให้ทำตัวเป็นเครื่องมือฝ่ายการเมือง

“สะสมทรัพย์”ยังไม่ไปไหน
     
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส. นครปฐม และประธานคณะกรรมการประสานงานภาคกลางพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี  ที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อ ไทยระบุในการประชุมวอร์รูมชุดห้องกรกฎเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ในทำนองว่าขุมกำลังพรรคเพื่อไทยใน จ.นครปฐม เตรียม จะไปที่อื่นว่า กลุ่มนครปฐมยังอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ส่วนอนาคตไม่ทราบเพราะการเมืองในประเทศวันนี้พูดยาก ทิศทางการเมืองตอนนี้กลุ่มนครปฐมหวังเรื่องเดียวคือให้บ้านเมืองสงบและให้ทุกสีเป็นสีเดียวกัน ซึ่งขอยืนยันว่า จ.นคร  ปฐม เป็นเมืองพระ ดังนั้น ส.ส. จังหวัดนี้ จะอยู่กับคนดีเท่านั้น คนไม่ดีเราไม่อยู่ด้วย
     
เมื่อถามถึงรายงานข่าวว่านายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคภูมิใจไทยทาบ  ทามกลุ่มนครปฐมเข้าร่วมงานการเมือง นายเผดิมชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่พรรค  การเมืองมีการทาบทามทุกพรรคการเมืองอยู่แล้ว แต่ผู้แทนเป็นคนที่จะต้องพิจารณาว่าพรรคการเมืองไหนดีทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ นักการเมืองอาชีพต้องเป็นนักประชา  ธิปไตยที่แท้จริงซึ่งกลุ่มนครปฐมยึดถือตรงนี้ ถ้าย้อนกลับไปดูจะเห็นว่ากลุ่มนครปฐมเคยย้ายพรรคหรือไม่แม้แต่ช่วงที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ แต่กลุ่มนครปฐมก็ยังอยู่

“วิทยา”ยันไม่ขัดแย้งใคร
     
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆ ในพรรค สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พูดก็ไม่ทราบว่าจะมารู้ดีกว่าตนได้อย่างไร แต่สาเหตุที่แท้จริงคือภารกิจที่รับผิดชอบมีจำนวนมาก อย่างเป็นประธานวิปฝ่ายค้านก็ต้องเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการทุกชุดอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องนั่งเก้าอี้รองหัวหน้าพรรคอีกตำแหน่ง และก่อนหน้านี้ ตนก็ไม่ได้ต้องการมาเป็น เพียงแต่ที่ประชุมลงมติเลือกตนขึ้นมา และหลังจากที่ลาออก ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อเลือกรองหัวหน้าพรรคที่ว่าง คงจะปล่อยให้ว่างไว้อย่างนั้นก็ไม่มีผลต่อการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งใด ๆ ในพรรคแน่นอน คนอย่างตนจะไปขัดแย้งอะไรกับใคร

ภท.ปัดดึงกลุ่มนครปฐม
     
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นคร ราชสีมา รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีวอร์รูมพรรคเพื่อไทยประเมินว่าจะได้ ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ในภาคอีสาน    อย่างน้อย 6 จังหวัดว่า แต่ละพรรคก็มีวิธีคิดแต่ละพรรค พรรคเพื่อไทยจะประเมินอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา แต่พรรคภูมิใจไทยจะเดินหน้าทำงานต่อไป วันนี้การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น ส.ส. และผู้สมัครของพรรค ก็ทำงานในพื้นที่ ดูแลจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เมื่อถามถึงข่าวมีการดึงกลุ่มนคร   ปฐมของนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว. สาธารณสุข มาร่วมงาน นายบุญจง กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกัน
    
นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รมช.  คมนาคม พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงว่าจะสอบตกในการเลือกตั้งในพื้นที่จ.มหาสารคามแน่นอนว่า ถือเป็นเกียรติ แต่ถ้าหาก ร.ต.อ.เฉลิม พูดแบบนี้ ตนคิดว่าต่อไปนี้คงต้องกวาดเอาทั้งหมด 6 ที่นั่งเลยดีกว่า และตนตั้งข้อสังเกตว่าในพื้นที่ จ.มหาสารคาม อยากถามว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยทำงานอะไรบ้าง หายไปไหน ทำไมไม่เคยดูแลพี่น้องในช่วงน้ำท่วมเลย

นายกฯพร้อมแจงทุกศาล
    
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่อง จริยธรรมขององค์กรว่า จากกรณีหนังสือพิมพ์เดอะมิเรอร์ ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า นายเจเรมี คอร์บลิน ส.ส.พรรคแรงงาน ได้ออกมาโจมตีและเรียกร้องให้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และนางซาแมธา  ภริยา ทบทวนแผนการเดินทางเยือนไทยในช่วงคริสต์มาส โดยให้เหตุผลว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในห้วงปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากลแสดงความกังวลเกี่ยวกับการทารุณกรรมซึ่งมีคนไปร้องที่ศาลโลกเพื่อดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์แล้ว รวมทั้งยังมีเรื่องคลิปที่ส่งผลด้านลบกับองค์กรอิสระจึงถามถึงความรู้สึกว่าเป็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ 
    
ทั้งนี้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์   รมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้ชี้แจงแทนนายกฯว่า คงไม่มีใครอยากเห็นจริยธรรมเสื่อมทรุดในองค์กรใด ๆ เรื่องการแก้ปัญหาจริยธรรมนั้นทุกคนในองค์กรก็ต้องช่วยกันทำให้จริยธรรมดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับฟังแนวทางต่าง ๆ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเรื่องคดีความที่บอกว่าคนจะไปดำเนินคดีกับนายกฯที่ศาลโลกนั้นเราไม่มีสิทธิไปถามความคิดของใคร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งที่นายกฯพยายามทำไม่ใช่เป็นการทำเพื่อรักษาตัวเอง หรือเพื่อรักษารัฐบาล แต่ทำเพื่อรักษาความถูกต้อง และระบอบประชาธิปไตย และเพื่อรักษาประเทศชาติ ตนเชื่อว่าไม่ว่านายกฯจะไปขึ้นศาลไหนก็ตามย่อมมีความพร้อมที่จะเอาความจริงบนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ใจไปต่อสู้ เราจึงไม่ได้วิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ตู่”สับคุมพาสปอร์ตมั่ว
     
ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. แถลงถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศจะยกเลิกหนังสือเดินทาง 9 แกนนำ นปช. ว่า การยกเลิกพาสปอร์ตไม่มีผล    ใด ๆ เพราะพวกตนถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงมีค่าเท่ากับ ศูนย์ สำหรับกรณีที่ออกมาให้ข่าวว่า นาย      อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ยื่นพาสปอร์ตปลอมเข้ากัมพูชานั้น เชื่อว่าเบื้องหลังไม่ธรรมดา เพราะนายอริสมันต์เป็นคนมีชื่อเสียง การเข้า-ออกผ่านด่าน ตม.ในจุดใด ๆ เจ้าหน้าที่ต้องรู้อยู่แล้ว จึงไม่มีทางจะไปดำเนินการอย่างที่กล่าวหาได้ เชื่อว่าเป็นเพียงการเล่นกระแสในทางการข่าวเท่านั้น
    
นายจตุพร ยังกล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายรัฐจะออกปฏิทินผู้ก่อการร้ายในเทศกาลปีใหม่นั้น พวกตนก็จะทำปฏิทินฆาตกรเหมือนกัน รัฐบาลทำ 1 ล้านฉบับ พวกตนก็จะทำ 2 ล้านฉบับวางขายในราคาเท่าทุน ก็ลองดูว่า ของใครจะเถิดเทิงกว่ากัน
    
ส่วนกรณีที่ทางกลุ่ม นปช. จะยื่นฟ้องต่อศาลโลกกรณีที่มีการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 รายนั้น ขณะนี้ใกล้ความจริงแล้ว เชื่อว่าเมื่อหลักฐานบันทึกข้อเท็จจริงในการสลายการชุมนุมถึงมือนายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติไปแล้ว ไม่ว่านายบันจะได้ฟังข้อมูลจากรัฐบาลมาอย่างไร เมื่อได้ข้อมูลนี้ก็จะมีความรู้สึกอีกอย่างว่าการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องระดับชาติ ซึ่งทางกลุ่มคนเสื้อแดงอียู จะช่วยติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

แดงนัดกันไปปั่นจักรยาน
     
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด และแนวร่วม นปช. กล่าวว่าในวันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค.นี้ คนเสื้อแดงจะจัดกิจกรรมปั่นจักรยานจากสี่แยกราชประสงค์ ไปหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน โดยนัดรวมตัวที่ราชประสงค์ในเวลา 10.00 น. ภายใต้การเคลื่อนไหว   ในชื่อว่า “ปั่นจักรยานปลดปล่อยนักโทษการเมือง” ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้ทางรัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน พร้อมทั้งปล่อยตัวนักโทษการเมืองทุกคนให้ออกมาต่อสู้คดีตามกระบวนการของศาลต่อไป 
     
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ นานประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น พล.ต.สนั่น ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีโอกาสต่อสายพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เท่าที่ทราบแนวโน้มของคนในพรรคเพื่อไทยก็เป็นไปด้วยดี และพูดจากับตนว่ามีแนวทางปรอง ดองที่ดี ส่วนการหารือกับนายวีระนั้นตนได้มีการพูดคุยกันชัดเจนว่าต้องการความปรองดองด้วยกันทั้งนั้น ตนจึงได้ขอร้องว่าให้ไปพูดจากับบรรดาแกนนำเสื้อแดงทุกคน

ต้องสกัดนปช.เผ่นไปไกล
     
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงต่างประเทศยกเลิกพาสปอร์ตแนว   ร่วม นปช. 9 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายว่า ขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้คงต้องให้กระทรวงต่างประเทศเป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งการเพิกถอนพาสปอร์ตไม่ได้หมายถึงการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน แต่จะมีผลให้ประเทศที่ให้แหล่งพักพิงไม่สามารถออกวีซ่า เพื่อเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ และจำเป็นต้องผลักดันคนเหล่านี้ออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นข้อมูลจาก กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) แต่ดีเอสไอเป็นเพียงผู้ให้การยืนยันข้อมูลว่าบุคคลทั้ง 9 คน เป็นผู้ต้องหาที่ถูกอัยการสั่งฟ้องในคดีก่อการร้ายแล้วเท่านั้น
    
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กล่าวถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศชุมนุมใหญ่วันที่ 19 พ.ย.ว่า มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ไปเจรจากับแกนนำ ซึ่งในส่วนของตำรวจนั้นมีการประชุมประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องด้วย คงไม่มีปัญหาอะไร ส่วน พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. กล่าวว่า เนื่องจากในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ผู้ชุมนุมต้องระมัดระวัง แต่ทางการข่าวคาดว่าอาจมีจำนวนไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่ประสบปัญหาภัยน้ำท่วมอยู่

อัยการฟ้องมือบึ้มบิ๊กซี
     
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเสกสรร วรปิติเจริญกรุง อายุ 37  ปี อาชีพรับจ้าง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดวัตถุระเบิด อาวุธปืน และเครื่องกระสุน รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับประกอบวัตถุระเบิดหลายรายการเป็นของกลาง เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 53 กระทั่งวันที่ 4 ส.ค. 53 จำเลยเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และให้การปฏิเสธ ศาลรับฟ้องไว้เป็นคดีดำที่ อ.3543/2553 และนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 29 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

เจอระเบิดชื้นเลยไม่บึ้ม    
    
ที่ จ.ชัยภูมิ พ.ท.ศราวุธ วัตตธรรม เสนาธิการประจำหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 55 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค. มีทหารจากหน่วย ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเกษตรสมบูรณ์ พบถุงพลาสติกบรรจุกระบอกคล้ายข้าวหลาม 16 กระบอกซุกอยู่ข้างถุงทราย ข้าง ๆ ตู้  เอทีเอ็ม จึงแจ้งหน่วยเกี่ยวข้องมาตรวจสอบ พบว่าเป็นระเบิดไดนาไมต์ ดัดแปลงโดยใส่น็อต ตะปู และมีการตั้งเวลาระเบิดเอาไว้ แต่ระเบิดไม่ทำงานเนื่องจากต่อวงจรไม่สมบูรณ์คาดว่าอาจเป็นเพราะถ่านไฟฉายมีความชื้นจากน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบระเบิดในเส้นทางที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ได้เดินทางมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา 

ปลุกพธม.คืนชีพชุมนุม
     
ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประ สานงานฯ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมพันธมิตรฯ พร้อมออกแถลงการณ์ ประณามรัฐบาลตระบัดสัตย์ หยุดรัฐบาลขายชาติ ในกรณีการนำบันทึกผลการประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) 3 ฉบับ เข้าสู่วาระการประชุมเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา
     
พล.ต.จำลองกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตนเห็นว่าถ้าคนไทยอยู่เฉยเราจะต้องเสียดินแดน 1.82 ล้านไร่แน่นอน เราเห็นแล้วว่าไม่มีทางรอด จึงต้องกำหนดให้มีการชุมนุมขึ้น ซึ่งมันจำเป็นจริง ๆ ถึงแม้ จะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราก็จะพยายามทำตามกฎหมาย ถ้าเขามาแกล้งจับให้ติดคุกก็ดีกว่าต้องเสียดินแดนไป พร้อมทั้งขอให้ทหารทั้งที่เกษียณ และยังประจำการ อย่าปล่อยให้ชาวบ้านมาเหนื่อยแทน 

ทวงสัญญาป้องพระวิหาร    
     
นายสนธิ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ยืนยันมาตลอดว่ายึดหลักสันปันน้ำ และจะดำเนินการผลักดันการยึดครองพื้นที่ออกไป โดยเฉพาะการให้คำมั่นต่อผู้ชุมนุมที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อให้การชุมนุมสลายตัว  แต่ผ่านมาเป็นเวลา 3 เดือน กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ ยังพูดว่าจะให้รับวาระและปิดการประชุมแต่กลับให้มีการลงมติ แสดงให้เห็นว่าโกหกประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์จะต้องทบทวนบทบาทของนายกษิตด้วย ที่ยืนอยู่ข้างข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศมากกว่าภาคประชาชน ตนขอเตือนสติพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ว่า วันข้างหน้าหากไทยเสียดินแดนจากการผ่านกรอบเจบีซีที่เท่ากับยอมรับแผนที่ตามอัตราส่วน 1:200,000 คดีความจะต้องเกิดกับตัวผู้ลงมติไม่ว่าใครก็ตาม
     
“การนัดชุมนุมของพันธมิตรฯที่หน้ารัฐสภา ในวันที่ 2 พ.ย. แนวร่วมพันธมิตรฯที่ประสบอุทกภัยไม่ต้องมาเข้าร่วมชุมนุม ขอให้ดูแลบ้านของตัวเอง ซึ่งหากพี่น้องเดินทางมาร่วมชุมนุม อาจทำให้ฝั่งรัฐบาลกล่าวหาได้ว่าชาวบ้านเดือดร้อนยังชวนมาชุมนุมอีก ฉะนั้นไม่ต้องมา ส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบขอให้มาช่วยกัน เพราะขณะนี้ชาติบ้านเมืองพึ่งนักการเมืองไม่ได้แม้แต่คนเดียว” นายสนธิ กล่าว

“สุทัศน์”ขับรถชนหน้าสภา
     
เมื่อเวลา 17.15 น. ภายหลังการปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบริเวณหน้ารัฐสภา โดยรถเบนซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน สส 4678 กรุงเทพมหานคร ซึ่งคนขับคือ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมว. ยุติธรรม ได้ขับออกจากประตูสภาในขณะที่รถฮอนด้าแอคคอร์ด สีบรอนซ์ทอง หมายเลข ทะเบียน ฌป 6528 กรุงเทพมหานคร วิ่งมาด้วยความเร็วทำให้เกิดการปะทะกัน ทั้งนี้นายสุทัศน์และคู่กรณีได้เจรจาประนีประนอมนานกว่า 30 นาที ท้ายที่สุดนายสุทัศน์ได้ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า เห็นกับภรรยาของคู่กรณีที่ทำงานอยู่ในสภาจึงได้บอกกับคู่กรณีว่าให้นำรถไปให้อู่ประเมินราคาค่าเสียหายและนำใบเสร็จมาเบิกเงินที่ตน

กสม.แจงงบซื้อรถถูกต้อง
    
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นพ.ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการ กสม. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งของ กสม. ที่มีราคาสูงกว่าความเป็นจริงว่า การจัดซื้อรถประจำตำแหน่งดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของทางราชการที่กำหนดว่า รถประจำตำแหน่งประธาน กสม. ราคาจะต้องไม่ เกิน 3.9 ล้านบาท และรถประจำตำแหน่ง กสม. ราคาจะต้องไม่เกิน 3.3 ล้านบาท 
    
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการจัดซื้อรถประจำตำแหน่งยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ราคา 13.19 ล้านบาทนั้น เป็นการจัดซื้อ 4 คันให้กับ กสม. 4 คน ไม่ใช่เป็นการจัดซื้อรถ 1 คัน รวมทั้งสาเหตุที่มีการดำเนินการในปลายปีงบประมาณปี พ.ศ. 2552 เนื่องจากสำนักงานฯ เพิ่งได้รับการอนุมัติโอนเปลี่ยนแปลงรายการเงินงบประมาณ ประจำปี พ.ศ. 2550 และปี พ.ศ. 2551



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์