นายกฯ ขอให้อาเซียนระวังความผันผวนของค่าเงิน

เวียดนาม 28 ต.ค.- นายกรัฐมนตรีเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ให้อาเซียนระวังความผันผวนของค่าเงิน นำข้อได้เปรียบของแต่ละประเทศมาใช้ในอาเซียน และเน้นให้อาเซียนทำงานร่วมกับประชาชน ผลักดันให้อาเซียนเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

“สกนธ์ จินดาวรรณ” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 17 ที่ กรุงฮานอย  สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานว่า วานนี้ นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 17 อย่างเป็นทางการ ในช่วงบ่าย จากนั้น ได้มีการประชุมสุดยอดผู้นำอย่างไม่เป็นทางการ

นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้อาเซียนระมัดระวังความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งอาจกระทบต่อการค้าและการลงทุน ในการหารือเรื่องการสร้างชุมชนอาเซียน ที่เน้นการลดช่องว่างของการพัฒนา การเชื่อมโยงการลงทุน และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

“นายกรัฐมนตรียังได้เสนอให้นำข้อได้เปรียบของแต่ละประเทศ มาใช้ในอาเซียน และเน้นให้อาเซียนทำงานกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้อาเซียนเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันของอาเซียน จะช่วยให้เกิดการพัฒนาที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาปรับปรุงข้อริเริ่มเชียงใหม่  ซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการดูแลความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ และควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง” นายปณิธาน กล่าว

จากนั้น ในช่วงค่ำ นายเหวียน เติน สุง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 

เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำอาเซียน   นายกรัฐมนตรีได้มอบของขวัญจากรัฐบาลไทย เป็นผลงานจิตรกรรมลายทองร่วมสมัย นารายณ์ทรงครุฑ วาดบนแผ่นไม้มีขนาด 165 x 122 เซนติเมตร โดยนำภูมิปัญญาไทยมาสร้างสรรค์ศิลปะบนลายรดน้ำ ซึ่งถือเป็นศิลปะที่มีรูปแบบ และเทคนิคที่มีความพิเศษเฉพาะตัวของศิลปิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ของประชาชนไทยและเวียดนาม  ในโอกาสที่เวียดนามฉลองครบรอบ  1,000 ปี ของการสถาปนา ทังลอง (ฮานอย) เป็นเมืองหลวง ในเดือนตุลาคมนี้  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ใช้เวลา 15 นาที ก่อนร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ หารือกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แบบ 2 ต่อ 2

คาดว่า จะมีการแสดงความเป็นห่วง เกี่ยวกับสถานการณ์พิบัติภัยธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในไทย รวมถึง การสานต่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ที่มีการจัดงานดนตรีวัฒนธรรม การแลกเปลี่ยนสื่อมวลชน และการเชิญรัฐมนตรีของแต่ละประเทศมาเยือน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่เป็นปัญหา และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย