ชายแดนสระแก้วสะพัด "อริสมันต์" จ้าง ตม. เขมรนำพาสปอร์ตประทับตราตม.ไทยปลอมขอวีซ่ากงสุลใหญ่กัมพูชาหวังเดินทางหลบหนีไปประเทศที่ 3 แม่ทัพภาค1ชี้กี้ร์ทำเอกสารปลอมเข้าเขมร
กลายเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งหลังมีกระแสข่าวในกัมพูชาหลุดออกมาว่า นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ผู้ต้องหาที่หนีหมายจับคดีก่อการร้ายมีความพยายามว่าจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาเพื่อนำพาสปอร์ตประทับตรา ตม.ไทยปลอมของนายอริสมันต์ มายื่นขอออกวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชาที่กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเชื่อกันว่า การกระทำของผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายรายนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเดินทางหลบหนีไปประเทศที่สามอย่างแน่นอน
แหล่งข่าวทางทหารกัมพูชากล่าวว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปอยเปตกัมพูชานำพาสปอร์ตของนายอริสมันต์มายื่นขอออกวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชาที่กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บริเวณสามแยกโคกสะแบง บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ห่างเขตแดนกัมพูชาประมาณ 1 กิโลเมตร โดยการยื่นขอออกวีซ่าในครั้งนี้นายอริสมันต์ไม่ได้เดินทางมาด้วย ขณะที่กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำอรัญประเทศได้ออกวีซ่าลงวันที่ 24 ตุลาคม
แฉประทับตราตม.ไทยปลอม
แหล่งข่าวทางทหารกัมพูชากล่าวต่อว่า การนำพาสปอร์ตมาขอวีซ่านั้นต้องมีตราประทับขาออกจากตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ไทยด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พาสปอร์ตของนายอริสมันต์ตราประทับของ ตม.ไทย แต่คาดว่าน่าจะเป็นตราประทับปลอม และเชื่อว่า ตม.ปอยเปตของกัมพูชาน่าจะได้รับการว่าจ้างจากนายอริสมันต์มาขอวีซ่า เพื่อต้องการเดินทางไปประเทศที่สาม หรือเพื่อเป็นการอ้างอิงว่า ช่วงที่ผ่านมาอยู่ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในกัมพูชา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในทางลับของกัมพูชาพบว่า ขณะนี้นายอริสมันต์หลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.เสียมราฐ ของกัมพูชา
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ประจำจุดตรวจขาออกด่านพรมแดนบ้านคลองลึก กล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบประวัติการเดินทางออกนอกประเทศของนายอริสมันต์ และจากการตรวจสอบสำเนาพาสปอร์ตของนายอริสมันต์ที่มีตราประทับตรวจคนเข้าเมืองไทยพบว่าเป็นรอยตราปลอม ส่วนใบวีซ่าที่ออกโดยกงสุลใหญ่กัมพูชาประจำอรัญประเทศ ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่
แม่ทัพภาค1ชี้กี้ร์ทำเอกสารปลอมเข้าเขมร
ด้านพล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ขอวีซ่าจากกงสุลใหญ่กัมพูชาไปประเทศที่ 3 ว่า กองกำลังบูรพา และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ยืนยันไปประเทศกัมพูชาว่า นายอริสมันต์ใช้เอกสารการเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา ที่ไม่ได้ออกโดยทางราชการ ดังนั้นการที่จะระบุว่ามีการประทับตราหนังสือจากประเทศไทยเป็นของไม่จริง เป็นของปลอม
เมื่อถามว่า การลักลอบออกนอกประเทศของนายอริสมันต์ มีเจ้าหน้าที่ไทยรู้เห็นหรือไม่ พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่านายอริสมันต์หลบหนีออกไปทางใด เพราะหลังจากที่เกิดปัญหาแล้วทางกองทัพภาคที่ 1 ก็ได้มีการตรวจสอบแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ส่วนจะหลบหนีไปทางใดตนไม่ทราบ แต่แนวชายแดนมีหลายส่วนรับผิดชอบ ทั้งนี้การที่นายอริสมันต์ พยายามจะขอวีซ่าไปอยู่ประเทศที่ 3 ก็ถือว่าเป็นเรื่องของผู้กระทำความผิด ก็จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย
ผู้ว่าฯสระแก้วสั่งตรวจสอบข่าวเขมรออกวีซ่าให้"กี้ร์"
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 25 ต.ค. นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ จนท.ด้านความมั่นคง เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำอรัญประเทศ ออกวีซ่าให้กับนายอริสมันต์อย่างเร่งด่วนแล้ว และทราบว่าจากข่าวดังกล่าวทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้เรียกทูตกัมพูชาเข้าพบแล้วเพื่อสอบถามถึงเรื่องนี้
ส่วนความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ด่าน.ตม.สระแก้ว ทำการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศของนายอริสมันต์ฯ ซึ่งพบว่าไม่มีข้อมูลการเดินทางออกไปเขมรของนายอริสมันต์ฯ แต่อย่างใด จึงยืนยันว่าตราประทับของ จนท.ตม.ไทยในสำเนาพาสปอร์ต ของนายอริสมันต์ฯเป็นตราประทับปลอม
จากนั้น พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.สระแก้ว และ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ. 1206 ฉก.กรม.ทพ. 12 กกล.บูรพา ได้ประสานความร่วมมือไปยัง ด่าน ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าเขมรของนายอริสมันต์ฯ ซึ่ง จนท.ตม.ปอยเปต ของกัมพูชา ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลว่านายอริสมันต์ฯ เดินทางเข้ากัมพูชา จึงเชื่อว่าพาสปอร์ตของนายอริสมันต์ฯ ที่นำมาขอออกวีซ่าที่กงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำอรัญประเทศ นั้นใช้ตราประทับปลอมทั้งของ จนท.ตม.ไทยและ ตม.เขมร
พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก. ตม.สระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ตม.สระแก้ว ได้ทำหนังสือส่งไปยังสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำอรัญประเทศ แล้ว เพื่อยืนยันว่านานอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เป็นผู้ต้องหาฯหลบหนีคดีและหลบหนีหมายจับของศาลประเทศไทย และประเทศไทยไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ และขณะนี้ทราบมาจากแหล่งข่าวในกัมพูชาว่าสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำอรัญประเทศ ได้แจ้งยกเลิกวีซ่าที่ออกให้กับนายอริสมันต์แล้ว
ส่วนทางด้านแหล่งข่าวทางทหารของกัมพูชาในฝั่งปอยเปตฯซึ่งขอสงวนนาม ได้เผยถึงที่มาของการออกวีซ่าให้นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ผู้ต้องหาหลบหนีคดีของไทย ว่ามาจากที่มี จนท.ตม.เขมร บางคนซึ่งหากินด้วยการอำนวยความสะดวกนำพาสปอร์ตนักท่องเที่ยวไปขอออกวีซ่าที่สถานกงสุลฯโดยไม่ต้องนำบุคคลมาแสดงตัว ได้นำพาสปอร์ตของนายอริสมันต์ยัดใส้มากับพาสปอร์ตของคณะทัวร์ท่องเที่ยว เพื่อมาขอให้สถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำอรัญประเทศ ออกวีซ่าเข้าประเทศกัมพูชา ซึ่ง จนท.กงสุลฯกัมพูชาไม่ได้ตรวจสอบตราประทับของ ตม.จึงออกวีซ่าให้ทั้งหมด และกว่าจะรู้ว่าได้ออกวีซ่าให้นายอริสมันต์ฯก็ไม่ทันการณ์แล้ว
"มีข้อมูลในทางลับว่าการที่นายอริสมันต์ มาขอออกวีซ่าเข้าเขมร และปลอมตราประทับของ จนท.ตม.เพื่อต้องการเดินทางหลบหนีออกจากเขมร ไปเข้าประเทศเวียตนาม เนื่องจากระบบการตรวจสอบเรื่องพาสปอร์ตและวีซ่าของเวียตนามบริเวณตะเข็บชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ยังไม่ดีพอ เมื่อเข้าประเทศเวียตนามแล้วจึงจะเดินทางต่อไปประเทศที่ไม่มีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย" แหล่งข่าวกล่าว
อภิสิทธิ์ชี้หลักฐานจะขอตัว"กี้ร์"จากฮุนเซน
เมื่อเวลา 15.20 น. นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลว่า ตนให้มีการตรวจสอบภาพรวมทั้งหมดที่ไปปรากฏอยู่ที่ประเทศกัมพูชาในทุกประเด็น ต้องดูว่ามายังไง ที่มาที่ไปยังไงทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ทราบทั้งหมด โดยตนกำลังให้ดำเนินการขยายผลจากคนที่นำพาสปอร์ตมาออกวีซ่า
“เราประสานกับกัมพูชาแน่เพื่อให้มีความร่วมมือกัน เพราะเหตุมันเกิดแล้วคือมันไม่ใช่เรื่องที่ว่าบอกเล่ากันเฉยๆ ส่วนมีการให้ความช่วยเหลือจากตม.หรือไม่ ผมขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน อย่างไรก็ตามไม่มีประเด็นที่ต้องขัดแย้งกันกับกัมพูชา ซึ่งเราต้องยืนยันว่าประเทศเพื่อนบ้าน มิตรประเทศเขาก็ต้องให้ความร่วมมือกับเราในเรื่องที่เป็นความมั่นคง เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ที่ผมให้ระมัดระวังในเรื่องการให้ข่าวเพราะว่าถ้าให้ข่าวเฉยๆแล้วไปกระทบ แล้วมีการตอบโต้กลับไปกลับมามันก็ไม่มีความเข้าใจกัน แต่เวลามันมีข้อมูลอะไรเราก็ต้องขอความร่วมประสานเราทำได้เต็มที่อยู่แล้ว ก็ไม่กระทบความสัมพันธ์โดยผมจะพบกับนายกฯฮุนเซนในอีก 2 วัน ผมก็จะขอความร่วมมือเรื่องนี้ เพราะเดิมท่านก็บอกอยู่แล้วว่าถ้ามีเหตุ มีหลักฐานให้แจ้งมา ท่านจะร่วมมืออยู่แล้ว” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าความร่วมมือจะมีการขอตัวกลับมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่แน่นอน ก็เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้กัมพูชาเคยส่งกลับมา 2-3 คน ซึ่งตนจำไม่ได้ ทั้งนี้ตนจะพูดกับสมเด็จฮุนเซนในสิ่งที่เคยพูดกันไว้ว่าทางกัมพูชาพร้อมที่จะร่วมมือในการที่จะจับกุมบุคคลที่ทำผิดกฎหมายและหลบหนีเข้าไป ซึ่งหลักฐานที่เรามีตนคิดว่ามีเพียงพอในการที่จะคุยกับสมเด็จฮุนเซน
เมื่อถามว่าคิดว่าจะมีมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่ที่หลบซ่อนอยู่ที่กัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงเป็นจุดที่บ่งบอกว่าคงจะต้องดูและขยายผลไปเพราะอาจจะมีคนอื่นๆด้วย
เผยคุยคีมุนสัมพันธ์กับกัมพูชาดีขึ้น
นายอภิสิทธิ์ แถลงข่าวตอนหนึ่งร่วมกับนาย บัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้มีการพูดคุยกันถึงความสัมพันธ์ที่กำลังจะดีขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ตนได้หารือกับสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและเบลเยี่ยม รวมถึงการจะหารือกันที่ประเทศเวียดนาม โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะแก้ปัญหาเขตแดนด้วยวิธีที่สันติผ่านกลไกทวิภาคีและคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา อีกทั้งจะมีมาตรการต่างๆที่เสริมสร้างความสัมพันธ์และการสื่อสารระหว่างกันให้ดีขึ้น ตลอดจนจะมีโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างกันในอนาคต
เลื่อนลงมติบันทึกประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ภายหลังจากสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส.รัฐบาล ฝ่ายค้านและ ส.ว.ได้อภิปรายแสดงความเห็นกันท้วงติงกันอย่างกว้างขวางในส่วนของบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา(จีบีซี)ทั้ง 3 ฉบับ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง ในที่สุด นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้แจ้งที่ประชุมว่าเมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอเลื่อนการชี้แจงรัฐมนตรี และการลงมติออกไปในการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งต่อไป พร้อมได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 2 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.และได้สั่งปิดประชุม 18.20 น.
มาร์คชี้หลักฐานขอตัวกี้ร์จากฮุนเซน
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!