ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักเกือบครึ่งค่อนประเทศ
ตัวเลขปลายสัปดาห์เดือดร้อนแล้วกว่า 450,000 ครัวเรือน เกือบ 1,300,000 คน เสียชีวิต 17 ราย
ไม่ต้องพูดถึงทรัพย์สินบ้านเรือน พืชผลการเกษตร การปศุสัตว์ว่าพินาศย่อยยับขนาดไหน
หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนระดมสรรพกำลังช่วยซับน้ำตากันเต็มที่
ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้านุ่งห่ม หยูกยา อาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯ ที่ได้จากการบริจาค ถูกนำมาจัดสรรกระจายไปยังพื้นที่ 29 จังหวัดประสบภัย
เห็นแล้วน่าปลื้มใจคนไทยไม่ทิ้งกัน
ขณะเดียวกันในมุมของนักการเมืองไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
เป็นจังหวะดีที่จะได้ตอบแทนบุญคุณชาวบ้านที่อุตส่าห์เลือกบรรดาทั่นๆ เข้าไปนั่งเป็นผู้แทน
ใครฉวยโอกาสหาเสียงกันตอนนี้คงไม่มีใครใจร้ายต่อว่าต่อขาน แต่ก็อย่าสร้างภาพ'ดราม่า'เกิน
เดี๋ยวจะดู'เฟก'
อย่างกองเชียร์บางพรรคที่พยายามป่าวประกาศว่า
การที่นายกฯอภิสิทธิ์ เดินสายลงตรวจพื้นที่น้ำท่วม เยี่ยมเยียนชาวบ้านที่ประสบความเดือดร้อนติดต่อกันหลายวันในช่วงนี้
แสดงถึงความเป็น'สุดยอดผู้นำ'
พร้อมจะยื่นมือช่วยเหลือชาวบ้านทุกภาคทุกจังหวัดโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นพื้นที่สีแดงหรือสีไหน
ชาวบ้านประชาชนเองก็ต้อนรับอย่างดี
ได้เห็นนายกฯ (มาดคุณหนู) นั่งเรือท้องแบน(ลุยน้ำสูงแค่หัวเข่า) น้ำตาก็ไหลพรากๆๆ
ทั้งที่ความจริงไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกพิสดารตรงไหน
เพราะการดูแลช่วยเหลือชาวบ้านผู้ตกทุกข์ได้ยาก มันก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ และรัฐบาลอยู่แล้ว
ไม่ว่าใครเป็นนายกฯ ทักษิณ สมัคร สมชาย หรือต่อให้สารวัตรเหลิม ก็ต้องทำอย่างที่นายกฯอภิสิทธิ์ทำอยู่ตอนนี้ทั้งนั้น
ถ้าไม่ทำสิถึงแปลก แถมยังจะโดนด่าว่าเป็นนายกฯภาษาอะไร(ฟะ)
ส่วนที่บอกว่านายกฯอภิสิทธิ์ กล้าลงไปพื้นที่จังหวัดภาคอีสานนั้น
ก็น้ำมันท่วมหนักที่ภาคอีสาน ถ้าไม่ไปภาคอีสานแล้วจะให้ไปภาคใต้หรืออย่างไร
แล้วที่บอกว่าไม่มีชาวบ้านมาคอยถือตีนตบขับไล่นายกฯ พร้อมกับทึกทักเอาว่าข้อขัดแย้งทางการเมืองได้สูญสลายหายไปกับสายน้ำแล้วนั้น
ถ้ามั่นใจอย่างนั้น น้ำลดเมื่อไหร่ ชาวบ้านกลับมาทำมาหากินได้อย่างปกติสุข
ก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พิสูจน์ให้เห็นกันจะจะไปเลย
กล้ารึเปล่า?